TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป ดึงอินไซต์ลูกค้า สร้าง Emotional Marketing คิกออฟแคมเปญส่งท้ายปี ครีเอทโมเม้นต์ความสุขผ่านมื้ออาหาร
เซ็น กรุ๊ป ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าช่วงปลายปีกับการครีเอทโมเม้นต์ดี ๆ ผ่านมื้ออาหารจากแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ ภายใต้กลยุทธ์ Emotional Marketing ที่จะดึงอินไซต์ลูกค้ามาต่อยอดสู่แคมเปญส่งท้ายปีที่จะสร้างคุณค่าให้กับการทานอาหารและช่วยเติมเต็มความสุขทางใจที่มากกว่าแค่ความอร่อย เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าเดิมและขยายโอกาสสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่อยากร่วมฉลองปีใหม่ไปพร้อมกัน

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงปลายปี 2567 พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสะท้อนถึงการปรับตัวต่อสภาพเศรษฐกิจและไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงมีการใช้จ่ายกับร้านอาหารอยู่ โดยเฉพาะร้านที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวก ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่ดี รวมถึงคุณค่าที่ได้รับจากการทานอาหาร ส่งผลให้ช่วงปลายปีนี้แคมเปญส่งท้ายปีของแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ จึงใช้กลยุทธ์ Emotional Marketing โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนพิเศษของเรา เริ่มต้นตั้งแต่การดึงข้อมูลอินไซต์ของลูกค้ามาต่อยอดด้านเมนูอาหาร สร้างความประทับใจตลอดการใช้บริการ และร่วมสร้างโมเม้นต์ดี ๆ แห่งความสุขด้วยกัน

“เพราะเราเชื่อว่าอาหารให้มากกว่าแค่ความอร่อย”
‘ปลาแซลมอน’ เป็นวัตถุดิบที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘ZEN’ ซึ่งมียอดการสั่งมากกว่า 30% และคาดว่าจะมากขึ้นในทุกปี อีกทั้งในช่วงที่ออกเมนูใหม่ Salmon Freshtival เมื่อปี 66 ที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ช่วงปลายปีนี้ แบรนด์จึงนำวัตถุดิบ ‘ปลาแซลมอน’ ยกเป็นตัวแทนของการเฉลิมฉลองภายใต้แคมเปญ Oshogatsu Blessings เปิดรับสิ่งดี ๆ สู่ปีแห่งความมงคล พร้อมดึงดูดให้ลูกค้านัดรวมตัวฉลองกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนพิเศษ กับ 7 เมนูพิเศษที่ห้ามพลาด คือ แซลมอนเซริวมากิ, แซลมอนโคโรเกะอโวคาโมเล่, ปลาแซลมอนชิตาเกะย่างใบโฮบะ, แซลมอนซาชิมิ 5 สไตล์, เครซี่แซลมอนซาชิมิ, แซลมอนและท้องแซลมอนทอดผัดพริกเกลือกระทะร้อน
นอกจากเมนูอาหารที่อร่อยแล้ว ยังรับฟรี Rakki Hoodie แมวซูชินำโชค เมื่อสั่งเมนูในแคมเปญนี้ จำนวน 1 เมนู ร่วมกับเมนูอื่น ๆ ภายในร้านครบ 2,200 บาท และรับ Origami Bird นกกระเรียนพับฝีมือน้อง ๆ เด็กพิเศษจากมูลนิธิสถาบันแสงสว่างที่ตั้งใจมาร่วมอวยพรลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยไอเดียนกกระเรียนพับนี้มาจากความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวแทนของ ‘นกแห่งความสุข โชคลาภ และการมีอายุยืนยาว’ แคมเปญเริ่ม 21 พฤศจิกายน 2567 – 17 กุมภาพันธ์ 2568

‘พาสต้า’ เมนูเส้นที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘On the Table’ การันตีจากยอดขายการสั่งเฉพาะเมนูพาสต้าสูงถึง 13% ทำให้แคมเปญช่วงปลายปีนี้แบรนด์ตัดสินใจออกเมนูเป็นพาสต้าล้วน เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ หลายหลายรสชาติในครั้งเดียว จนเกิดเป็นแคมเปญยกขบวน ‘Pasta Parade’ ส่งท้ายสิ้นปีกับโต๊ะจัง นำทีมโดย ‘เฟตตูชินี่เพสโต้ทรี’ ที่ออกแบบเป็นพาสต้าต้นคริสต์มาส ใส่ซอสเพลสโต้ให้เป็นสีเขียว ประดับด้วยสม๊คแซลมอน กุ้งย่าง หอยโฮตาเตะ ท็อปปิ้งเพิ่มความฟินด้วยชีสเฟต้าสวยงามดุจเกล็ดหิมะ แถมยังมีอีก 3 เมนูพาสต้า คือ อูด้งเมนไตโกะคาโบนาร่า, คาเปลลินี่เย็นซีฟู้ด, เฟตตูชินีมิโสะบัตเตอร์และแซลมอนอบซอสเนยกระเทียม และเมนูของหวาน โทสต์เอิร์ลเกรย์บานาน่า รวมถึงเครื่องดื่มอย่าง เวอร์จิ้นไวท์แซงเกรีย อีกทั้งยังมีคลิปวีดีโอสั้นที่ถ่ายทอดมุมมองเรื่องความสุขบนโต๊ะอาหาร ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กที่วาดต้นคริสต์มาสลงบนกระดาษ ต่อยอดสู่เมนูไฮไลท์พาสต้าต้นคริสต์มาสให้ได้ชมอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทางแบรนด์ตั้งใจสร้างสรรค์มื้ออาหารแห่งการเฉลิมฉลองและเพิ่มสีสันให้เทศกาลส่งท้ายปีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แคมเปญเริ่ม 2 ธันวาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568

‘ชีส’ เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกสนุก ตรงกับคาแรคเตอร์ของ ‘AKA’ ยากินิกุ ที่จับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ที่อยากมาตะลุยกินปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์สุดคุ้ม จากข้อมูลพบว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีการสั่งเมนูชีสกว่า 10% จากออเดอร์ทั้งหมด ทำให้ช่วงปลายปีนี้แบรนด์ได้ออกแคมเปญ ‘ชีสนัว’ ครีเอทเมนูใหม่จากชีสกว่า 18 เมนู อาทิ 3 เมนูชีสดิป ชีสฟองดูว์, ชีสโรเซ่ฟองดูว์, ชีสทรัฟเฟิลฟองดูว์, เบคอนเนื้อ AUS พันชีส, เนื้อแกะพันชีสหม่าล่า, หอยเชลล์ย่างชัสทรัฟเฟิล, หอยเชลล์ย่างสไปซี่มิโสะชีส, กุ้งแม่น้ำชีสทรัฟเฟิล, ทรัฟเฟิลแมคแอนด์ชีส, กุ้งแม่น้ำสไปซี่มิโสะชีส และมะนาวช็อตครีมชีส เป็นต้น จนเป็นอีกหนี่งปรากฏการณ์ที่เรียกได้เต็มปากว่า ‘บุฟเฟต์ชีส’ ลูกค้าสั่งชีสมาเต็มโต๊ะเลยทีเดียว คุ้มค่าทั้งราคา คุณภาพวัตถุดิบ และสร้างโมเม้นต์แห่งความสนุกร่วมกันในช่วงส่งท้ายปีได้เป็นอย่างดี แถมยังกระตุ้นให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ในเรื่องความสนุกได้อย่างขึ้นใจ แคมเปญเริ่ม 15 ตุลาคม 2567 – 15 กุมภาพันธ์ 2568

‘วัตถุดิบตามฤดูกาล’ เป็นเสน่ห์ของร้าน ‘Sushi Cyu’ ที่นำเสนอความพิเศษของโอมากาเสะซูชิ ด้วยการเปิดประสบการณ์รสสัมผัสแห่งฤดูหนาว ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศประจำฤดูกาล อาทิ ปูขนญี่ปุ่น, อังกิโมะ ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล”, เสปิร์มไข่ปลาคอต, ไข่หอยเม่นจากฮอกไกโด และวัตถุดิบอีกมากมายมาให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับโอมากาเสะสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ ลิ้มลอง Winter Omakase Course ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

“แคมเปญเหล่านี้เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะเชื่อมโยงกับอารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจ และสร้างการจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกแบรนด์ในเครือของเราจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในทุกช่วงเวลาสำคัญของลูกค้าคนพิเศษของเรา คาดว่าในช่วงส่งท้ายปีจะสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดร้านอาหารอย่างคึกคักแน่นอน” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line @ZENGroupT
4 ธันวาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
14 กุมภาพันธ์ 2562
‘บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 20 ก.พ.นี้ หลังนักลงทุนสถาบันและรายย่อยตอบรับจองซื้อหุ้น IPO อย่างคึกคัก จากความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจ มั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดี ด้านผู้บริหาร ชูจุดแข็งเป็นผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสอย่างเต็มรูปแบบที่มีทั้งธุรกิจร้านอาหาร แฟรนไชส์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมเตรียมแผนรุกใหญ่ขยายร้านอาหารในปี 62 – 63 รวมกันอีกกว่า 340 สาขา จากปัจจุบันที่มี 255 สาขา เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘ZEN’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังจากที่ปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ได้ตามเป้าหมาย โดยนักลงทุนสถาบันและรายย่อยได้จองซื้อหุ้น IPO อย่างคึกคัก ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและจุดแข็งของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส (Food Services) อย่างเต็มรูปแบบ ที่มีทั้งธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจแฟรนไชส์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจบริการจัดส่งอาหารและบริการจัดเลี้ยง ธุรกิจให้บริการบริหารร้านอาหารและที่ปรึกษาเกี่ยวกับร้านอาหาร และธุรกิจอาหารค้าปลีก เช่น อาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทาน ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านอาหารทั้งสิ้น 12 แบรนด์ รวม 255 สาขา แบ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ จำนวน 88 สาขา ได้แก่ 1. ZEN 2. Musha by ZEN 3. Sushi Cyu Carnival Yakiniku 4. AKA 5. Testu และ 6. On the Table Tokyo Café และร้านอาหารไทยอีก 6 แบรนด์ จำนวน 167 สาขา ได้แก่ 1. ตำมั่ว 2. ลาวญวน 3. แจ่วฮ้อน 4. เฝอ 5. de Tummour และ 6. เขียง ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยตามสั่งหรือ Street Food แบรนด์ใหม่ที่นำเสนออาหารไทยจานเดียว เปิดบริการสาขาแรกที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จ.นนทบุรี

สำหรับปี 2562 – 2563 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาร้านอาหารเพิ่มขึ้นอีก 348 สาขา แบ่งเป็นการลงทุนในปีนี้จำนวน 123 สาขา ผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ 87 สาขาและลงทุนเอง 36 สาขา ขณะที่ปี 2563 จะเพิ่มสาขาอีก 225 สาขา เป็นแฟรนไชส์ 175 สาขาและลงทุนเอง 50 สาขา เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 9 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – กันยายน 2561) มีอัตราการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 2,226.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 108.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น 

“เราพร้อมขยายสาขาอย่างเต็มที่ในช่วง 2 ปีนับจากนี้ หลังจากได้ลงทุนด้านระบบบริหารจัดการภายในองค์กรและการเสริมทีมบุคลากรไว้รองรับเรียบร้อยแล้วประกอบกับเรามีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯจึงมีเป้าหมายที่ต้องการยกระดับองค์กรไปสู่การเป็นผู้นำธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในประเทศไทย และมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง” นายบุญยง กล่าว

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ปัจจุบัน ZEN เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสชั้นนำในประเทศไทย โดยถือเป็นผู้บุกเบิกร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นรายแรกๆ ในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น ‘ZEN’ และได้มีการขยายแบรนด์ใหม่ๆ และสาขาเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มที่มีกำลังซื้อระดับล่าง กลาง และบน นอกจากนี้ ZEN ยังได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานเพื่อขยายฐานลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน การดำเนินธุรกิจของ ZEN ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ จึงได้รับผลดีจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัวและธุรกิจร้านอาหารที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของรายได้ประชากรและการเติบโตของหัวเมืองใหญ่ โดยนับจากปี 2555 – 2560 ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารมีอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณ 4.7% ต่อปี หรือมีมูลค่าตลาดรวมในปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 8.4 แสนล้านบาท ขณะที่ Euromonitor International คาดการณ์ในปี 2565 มูลค่าตลาดธุรกิจร้านอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.05 ล้านล้านบาท 
7 กุมภาพันธ์ 2562
อากะ ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น จัดกิจกรรมสุดพิเศษมีทแอนด์กรี๊ด AKA x SWEAT16! ณ สาขา เซ็นทรัลเวิลด์ นำทีมผู้บริหารโดย คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และคุณสุจันท์ภา พลางกูร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มแบรนด์ปิ้งย่างและคาเฟ่ เป็นประธานในงาน เพื่อร่วมเปิดกิจกรรมสุดพิเศษมีทแอนด์กรี๊ด กับน้องๆ จากวง SWEAT16! วงไอดอลยอดนิยม เจ้าของซิงเกิ้ลเพลง “ยากินิกุ (Yakiniku)”

ภายในงานมีกิจกรรมบนเวทีและกิจกรรมพิเศษ ให้แฟนคลับได้ร่วมสนุกมากมาย ทั้งสำหรับเหล่าผู้โชคดีที่เป็นผู้รับสิทธิ์จากการร่วมสนุกแคมเปญผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และผู้รับประทานอาหารที่มียอดสะสมสูงสุดของบัตรสมาชิกอากะ และเหล่าแฟนคลับโอตะ ได้ร่วมถ่ายภาพหมู่ พร้อมร่วมกิจกรรมรับประทานอาหารที่ร้านอากะ ทั้งนี้เหล่าสมาชิกวง SWEAT16! ได้นำเสนอเมนูพิเศษตามแบบฉบับของแต่ละคน พร้อมเซอร์ไพรส์มากมายตลอดกิจกรรมให้เหล่าโอตะได้สนุกสนานอย่างเป็นกันเอง
6 กุมภาพันธ์ 2562
‘บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN เคาะราคาขาย IPO ที่ 13 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบัน พร้อมลงนามแต่งตั้ง บล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หลักทรัพย์ หลังหนังสือชี้ชวนมีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อย เตรียมแผนลงทุนขยายสาขาร้านอาหารในไทยและต่างประเทศเต็มสูบ พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส  

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้สำรวจความต้องการจองซื้อหุ้น IPO ของ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จากนักลงทุนสถาบัน (Book Building) เมื่อวันที่ 4 – 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบัน โดยนักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการจองซื้อที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 13 บาท และมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจและโอกาสการเติบโตในอนาคต จึงได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 13 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) โดยเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 7 – 8 และ 11 กุมภาพันธ์นี้ และคาดว่าหุ้น ZEN จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยวัตถุประสงค์ระดมทุน เพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายและปรับปรุงสาขาร้านอาหาร ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN กล่าวว่า ตั้งเป้านำบริษัทฯ ก้าวเป็นผู้นำของประเทศในธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส (Food Service) และกำหนดวิสัยทัศน์องค์กรเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยได้วางแผนขยายธุรกิจและปรับปรุงร้านอาหาร ธุรกิจแฟรนไชส์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อย่างเต็มที่ หลังจากได้ลงทุนด้านระบบบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเป็นที่เรียบร้อย โดยในปี 2562 บริษัทฯ วางแผนงานขยายร้านอาหารรวมประมาณ 123 สาขา แบ่งเป็นการขยายสาขารูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลง (พื้นที่ประมาณ 100 ตร.ม.) โดยกลุ่มบริษัทฯ 36 สาขา และให้สิทธิแฟรนไชส์ 87 สาขา ส่วนในปี 2563 บริษัทฯ วางแผนงานขยายร้านอาหารรวมประมาณ 225 สาขา แบ่งเป็นการขยายสาขารูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่โดยกลุ่มบริษัทฯ 50 สาขา และให้สิทธิแฟรนไชส์ 175 สาขา

ทั้งนี้ ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจร้านอาหาร 2. ธุรกิจแฟรนไชส์ และ 3. ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery) และบริการจัดเลี้ยง (Catering) ธุรกิจให้บริการบริหารร้านอาหาร (Restaurant Management) และบริการที่ปรึกษาเกี่ยวกับร้านอาหาร (Restaurant Consultancy) และธุรกิจอาหารค้าปลีก (Retail Business) เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) ซึ่งเป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากการจำหน่ายในร้านอาหารมาต่อยอดเพื่อวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีร้านอาหารรวม 12 แบรนด์ แบ่งเป็น กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ ได้แก่ 1. ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Authentic Japanese Food) 2. Musha by ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ 3. Sushi Cyu Carnival Yakiniku ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม 4. AKA ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น (Yakiniku) 5. Testu ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม และ 6. On the Table Tokyo Café ร้านอาหารประเภทไลฟ์สไตล์ และกลุ่มร้านอาหารไทยอีก 6 แบรนด์ ได้แก่ 1. ตำมั่ว ร้านอาหารไทย-อีสาน 2. ลาวญวน ร้านอาหารไทย-อีสานและเวียดนาม 3. แจ่วฮ้อน ร้านอาหารประเภทสุกี้ลาวหรือจิ้มจุ่ม  4. เฝอ ร้านก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนาม 5. de Tummour ร้านอาหารไทย-อีสานแบบพรีเมี่ยม และ 6. เขียง (Khiang by tummour) ร้านอาหารไทยตามสั่งหรือ Street Food แบรนด์ใหม่ที่นำเสนออาหารไทยจานเดียว โดยเปิดบริการสาขาแรกที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จ.นนทบุรี 

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทฯ มีร้านอาหารในไทยและต่างประเทศรวม 255 สาขา แบ่งเป็นกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารไทย 167 สาขา และกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 88 สาขา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นร้านอาหารที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ 110 สาขา และให้สิทธิแฟรนไชส์ 145 สาขา

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – กันยายน 2561) มีรายได้รวม 2,226.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 108.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์ 

“เรามีจุดเด่นด้านการเป็นผู้ให้บริการอาหาร (Food Services) อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีทั้งธุรกิจร้านอาหารที่มีแบรนด์หลากหลาย สามารถตอบสนองผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อระดับล่าง กลาง และบน และมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่จะช่วยให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถขยายสาขาได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงยังมีการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างและจุดแข็งให้กับการดำเนินธุรกิจ ” นายบุญยง กล่าว
6 กุมภาพันธ์ 2562
MUSHA by ZEN  ร้านอาหารญี่ปุ่นจานเดียว แบรนด์ในเครือ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดเต็ม แจกหนัก รับเดือนแห่งความรัก เพียงชวนคู่ซี้ คู่รัก คู่กัด หรือ คู่กิน มากินอาหารที่ร้าน MUSHA สาขาใดก็ได้ แล้วถ่ายรูปกับคู่ของคุณพร้อมกับเมนูสุดเลิฟของมุฉะ ใส่แคปชั่นเด็ดโดนใจที่บ่งบอกความเป็นคู่ของคุณมากที่สุด พร้อม Hashtag #MUSHAbyZEN #iloveyousomusha #มุฉะใจดีให้กินฟรี10คู่ แล้วแชร์ลงใน Facebook หรือ IG โดยเปิดเป็นสาธารณะ ลุ้นรับกินมุฉะฟรี 10 คู่ มูลค่าคู่ละ 1,000 บาท และ คูปองรับประทานอาหาร มูลค่า 300 บาท 5 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 10,000 บาท ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 6 – 28 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ “มุฉะ” สาขาบิ๊กซี นครปฐม ชั้น 1 , สาขาแหลมทอง บางแสน ชั้น 1 , สาขาเมเจอร์รัชโยธิน ชั้น 2 , และ สาขาแปซิฟิก พาร์ค ศรีราชา ชั้น 3 โดยจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีทาง FB และ IG : MUSHA by ZEN ในวันที่ 4 มี.ค. 62
23 มกราคม 2562
 บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN เตรียมเสนอขาย IPO 75 ล้านหุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ชูจุดเด่นธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสที่มีทั้งร้านอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ บริการจัดส่งอาหาร รับจัดเลี้ยง บริหารร้านอาหาร อาหารค้าปลีก หวังระดมทุนขยายสาขาร้านอาหาร ปรับปรุงสาขาเดิมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตั้งเป้าดันยอดขายเพิ่มขึ้นผ่านการรุกขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้ว

 ปัจจุบัน บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ ดังนี้ (1) ขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ได้แก่ การขยายและปรับปรุงสาขาร้านอาหาร (2) ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และ (3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ทั้งนี้ หากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในไตรมาส 1 ปีนี้  

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ มีจุดเด่นด้านการเป็นผู้ให้บริการร้านอาหาร (Food Services) อย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ได้มีเพียงธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายได้อย่างครอบคลุมในทุกระดับ เช่น ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery Business) และ ธุรกิจอาหารค้าปลีก (Retail Business) เป็นต้น

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงทุนเตรียมความพร้อมด้านระบบบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งการเพิ่มบุคลากรลงทุนด้านระบบสารสนเทศเพื่อรองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลกระทบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจ โดยสามารถใช้ฐานฝ่ายงานสนับสนุนที่มีการลงทุนเตรียมความพร้อมไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มที่ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ โดยปัจจุบัน สามารถแบ่งธุรกิจหลักเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) ธุรกิจร้านอาหาร (2) ธุรกิจแฟรนไชส์ และ (3) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery) และบริการจัดเลี้ยง (Catering) ธุรกิจให้บริการบริหารร้านอาหาร (Restaurant Management) และบริการที่ปรึกษาเกี่ยวกับร้านอาหาร (Restaurant Consultancy) และธุรกิจอาหารค้าปลีก (Retail Business) เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) ซึ่งเป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากการจำหน่ายในร้านอาหารมาต่อยอดเพื่อวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีร้านอาหารภายใต้การดำเนินงานรวม 12 แบรนด์ แบ่งเป็น กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ ได้แก่ (1) ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Authentic Japanese Food) (2) Musha by ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ (3) Sushi Cyu Carnival Yakiniku ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม (4) AKA ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น (Yakiniku) (5) Testu ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม และ (6) On the Table Tokyo Café ร้านอาหารประเภทไลฟ์สไตล์ 

และกลุ่มร้านอาหารไทย 6 แบรนด์ ได้แก่ (1) ตำมั่ว ร้านอาหารไทย-อีสาน (2) ลาวญวน ร้านอาหารไทย-อีสานและเวียดนาม (3) แจ่วฮ้อน ร้านอาหารประเภทสุกี้ลาวหรือจิ้มจุ่ม  (4) เฝอ ร้านก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนาม (5) de Tummour ร้านอาหารไทย-อีสานแบบพรีเมี่ยม และ (6) เขียง (Khiang by tummour) ร้านอาหารไทยตามสั่งหรือ Street Food แบรนด์ใหม่ที่นำเสนออาหารไทยจานเดียวยอดนิยมเพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วไป เช่น ข้าวผัดกระเพราหมูสับ ฯลฯ ล่าสุด ร้านเขียงได้เปิดสาขาแรกในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จังหวัดนนทบุรี  ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทฯ มีร้านอาหารภายใต้แบรนด์ของตนทั้งในไทยและต่างประเทศรวม 255 สาขา แบ่งเป็นกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารไทย 167 สาขา และกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 88 สาขา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นร้านอาหารที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ 110 สาขา และให้สิทธิแฟรนไชส์ 145 สาขา

“บริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นผู้นำของประเทศในธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสและกำหนดวิสัยทัศน์องค์กรก้าวเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยในปี 2562  วางแผนงานขยายร้านอาหารของกลุ่มบริษัทฯ 36 สาขา และขยายสาขาแฟรนไชส์ 87 สาขา และในปี 2563 วางแผนงานขยายร้านอาหารของกลุ่มบริษัทฯ 50 สาขา และขยายสาขาแฟรนไชส์ 175 สาขา” นายบุญยง กล่าว 

นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – กันยายน 2561) มีรายได้รวม 2,226.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,826.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.2 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์
17 มกราคม 2562
บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจ Food Service โชว์ความพร้อมด้านระบบบริหารการจัดการภายในองค์กร ตั้งแต่เสริมทีมบุคลากร ระบบซัพพลายเชน และบัญชี รองรับแผนขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าเต็มตัว ย้ำชัดการรุกธุรกิจต่อจากนี้มีความพร้อมเนื่องจากได้ลงทุนในส่วนงานสนับสนุนแล้ว ลุยเดินหน้าขยายแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่น AKA ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา และรุกเปิดตัวร้านอาหารไทยแบรนด์ใหม่ ‘เขียง’ (Khiang by tummour) ขายอาหารจานเดียวเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เป็นตลาดแมส

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจ Food Service เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีศักยภาพและความพร้อมรุกขยายธุรกิจ Food Service อย่างเต็มที่ หลังจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เตรียมพร้อมระบบบริหารจัดการภายในองค์กร ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มบุคลากรส่วนสนับสนุน การลงทุนด้านระบบสารสนเทศเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ระบบบัญชี และระบบซัพพลายเชน เพื่อรองรับแผนขับเคลื่อนธุรกิจที่ต่อจากนี้จะเน้นรุกขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศของกลุ่ม ZEN เพื่อผลักดันขีดความสามารถและผลักดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ

ZEN มีการขยายการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งจากแบรนด์ที่พัฒนาโดยตนเองและการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากเข้าซื้อกิจการ โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2534 ZEN มีการพัฒนาแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น AKA, On The Table, Tetsu และ Musha และล่าสุดบริษัทฯ เพิ่งเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารน้องใหม่ภายใต้ชื่อ “เขียง” ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยตามสั่ง หรือ Street Food เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนไทย

นอกจากนี้ ในปี 2559 ZEN ได้เข้าซื้อกิจการในเครือแบรนด์ตำมั่วซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารไทยอีสานและได้นำแพลตฟอร์มการดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ดังกล่าวมาพัฒนารองรับแผนการขยายดำเนินธุรกิจ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ZEN ได้ลงทุนในส่วนงานสนับสนุน เช่น ระบบบัญชี และระบบซัพพลายเชน เพื่อยกขีดความสามารถการแข่งขันในการทำธุรกิจ Food Service ต่อยอดการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ AKA และ On the Table ในต่างประเทศ โดยหลังจากที่มีการเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหาร AKA และ On the Table ในประเทศเมียนมาร์และกัมพูชาไปแล้ว ล่าสุดในเดือนมกราคม 2562 เตรียมเปิดสาขาแฟรนไชส์แห่งใหม่ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

“เราใช้เวลาเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและพัฒนาระบบงานต่างๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงกระทบกับค่าใช้จ่ายการบริหารที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่า ณ ปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อม เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจร้านอาหารที่วางไว้ โดยสามารถใช้ฐานฝ่ายงานสนับสนุนที่มีการลงทุนไว้แล้วเพื่อรองรับการเติบโตได้” นายบุญยง กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทฯ มีจุดแข็งที่แตกต่างจากผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ โดย ZEN เป็นผู้พัฒนาแบรนด์ร้านอาหารเอง จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อแฟรนไชส์จากต่างประเทศ และในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างรายได้จากการขายแฟรนไชส์อีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีธุรกิจอาหารค้าปลีก (Food Retail) ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยได้นำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากการขายที่ร้านอาหาร อาทิ น้ำปลาร้าปรุงรส หมี่มั่ว น้ำจิ้มแจ่ว แจ่วบองฯลฯ มาต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ เพื่อวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนงานขยายสาขาในทำเลใหม่ๆ เช่น ภายในสถานีบริการน้ำมัน แหล่งชุมชน จากเดิมที่มุ่งเน้นการขยายสาขาภายในศูนย์การค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและมีแผนพัฒนาร้านอาหารในรูปแบบ Micro Format ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีพื้นที่ร้านขนาดเล็ก เมนูอาหารไม่ซับซ้อน และใช้เงินลงทุนไม่สูง เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ Musha ที่ปรับเปลี่ยนเมนูจากแบรนด์ร้านอาหาร ZEN โดยเน้นเมนูอาหารเป็นแบบอาหารจานเดียวในราคาที่ย่อมเยา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง และร้านอาหารไทยแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘เขียง’ (Khiang by tummour) ซึ่งนำเสนอเมนูอาหารไทยจานเดียวยอดนิยม เช่น ข้าวผัดกระเพราหมูสับ ข้าวหมูกระเทียม ฯลฯ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เป็นตลาดแมสได้ โดยเปิดให้บริการสาขาแรกเป็นที่เรียบร้อยภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งจะส่งผลดีต่อโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว