TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป Q4 ปี 66 รายได้รวม 1,062 ล้านบาท อัพไซด์ค้าปลีกโต 72% ดันยอดรวมปี 66 แตะ 3,945 ล้านบาท

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

6 มีนาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งสายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ ชวนแวะมาเช็คอิน ส่องผลงานศิลปะสุดคิ้วท์
28 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
ปิ้งย่างอินเลิฟ! AKA สร้างกระแสช่วงวาเลนไทน์ ‘เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่รัก’ มอบ ‘ช่อหมูสื่อรัก’ กระชับมิตรแบรนด์คู่แข่งในตลาด แถมถูกจริตคู่รักนักปิ้ง สร้าง engagement ร่วมกันหวานฉ่ำ
12 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย" ท้าดวลนักกินจุทั่วไทย ร่วมชิงเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
18 มกราคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น เรสเตอร์รอง ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมความมงคลด้วยมื้ออาหารคุณภาพกับ 5 เมนูมังกรมงคล พร้อมเช็คดวงปัง ๆ ไปกับ หมอต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง
29 ธันวาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม
14 ธันวาคม 2566
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์ตัวเลขไตรมาส 3 ปี 2566 รายได้รวม 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้น 11% และรายได้ธุรกิจค้าปลีกเติบโตขึ้น 58% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 2,883 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 17% จากงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือ 20% และมีกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท หรือ 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ในส่วนของ ‘ธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ร้าน’ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% และสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้เพิ่มขึ้น 414 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ อาทิ เดอ ตำมั่ว (De Tummour) ร้านอาหารไทยในเครือ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The original Thai food’ ยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย พร้อมลุยตลาดร้านอาหารไทยแบบเต็มตัว เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมปั้นโมเดลต้นแบบ Flagship Store โฉมใหม่ ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา

ทั้งนี้ยังมีการออกแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค กับปรากฏการณ์ครั้งแรกของแบรนด์ ‘อากะ’ ฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาววววววว’ ต่อยอดมะนาวช็อต ตบท้ายมื้อปิ้งย่าง สู่ Product Killer ‘AKA LONG SHOT’ ดึงลูกค้าเข้าร้าน ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่เกิดจากเสียงของผู้บริโภค (Voice of Customer) ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างล้นหลาม และยังมีแคมเปญโปรโมชั่นอื่น ๆ ของทุกแบรนด์ในเครือ ทำให้มีจำนวนลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากช่องทางนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 
นอกจากนี้ยังมี ‘การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง’ โดยบริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 18 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 13 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา หากนับรวมในงวด 9 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 33 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 20 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 12 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 3 กรกฎาคม - กันยายน ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้
  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 6 สาขาใหม่ ได้แก่ มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล มหาชัย, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี, เซ็นทรัล ศรีราชา รวมทั้งหมดเป็น 50 สาขา และเตรียมเปิดอีก 4 สาขา ภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 3 สาขาใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัลรามอินทรา, ศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต, เซ็นทรัล มหาชัย รวมทั้งหมดเป็น 51 สาขา และเตรียมเปิดอีก 5 สาขาภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 2 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะ พอร์ทอล อิมแพ็ค เมืองทองธานี, เทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 31 สาขา และเตรียมเปิดอีก 3 สาขาภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ ตำมั่ว เปิดสาขาแฟรนไชส์ 4 สาขาใหม่ และเปิด เดอ ตำมั่ว เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 1 สาขาใหม่ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ลาวญวน เปิด 1 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ ได้แก่ เซ็นทรัล ระยอง และสาขาแฟรนไชส์อีก 1 สาขา
  • แบรนด์ เขียง เซอร์ไพรส์ช่วงท้ายปีกับการเตรียมเปิดสาขาแฟรนไชส์ที่สาขาต่างประเทศอีก 2 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 329 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 166 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 154 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 9 สาขา
และอีกธุรกิจที่โดดเด่นคือ ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรส ธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
รวมถึง ‘การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ’ ทั้งค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างของหน่วยงานสนับสนุนภายในองค์กรในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยังคงมีปัจจัยด้านต้นทุนราคาวัตถุดิบของทั้งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจอาหารค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากแรงกดดันด้านอุปทานจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้บริษัทต้องวางแผนการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ทาง เซ็น กรุ๊ป ยังได้รับการประเมินติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับผลประเมินเป็น ‘หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2566’ ซึ่งผลรวมการประเมินที่ได้รับคะแนนรวมเพิ่มมากขึ้นในทุกปี ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)
“สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4 ก็ยังคงมุ่งเน้นเรื่องการออกแคมเปญที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงส่งท้ายปี ของทุกแบรนด์ในเครือ และปักหมุดขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิต และปรับเพิ่มรูปแบบการจัดจำหน่าย เพื่อครอบคลุมและรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในหลากหลายช่องทาง” คุณยุพาพรรณ กล่าวทิ้งท้าย
14 ธันวาคม 2566
ปีใหม่นี้ ร้านปิ้งย่างชื่อดัง ‘อากะ’ ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ สร้างประสบการณ์ใหม่ เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ สายเกาหลีเลิฟเวอร์!  กับการแปลงโฉมเป็นอปป้า ในคอนเซปท์ ‘กินเกาให้เมามันส์’ ยกขบวนเมนูเกาหลีแท้ ๆ ถึงเครื่องถึงรสความเกาหลีจัดเต็มกว่า 36 เมนู พร้อมความสนุกรับปีใหม่ ด้วยอาวุธลับใหม่สไตล์อากะ สำหรับการเฉลิมฉลองแบบเกาหลี ด้วย AKA Lemon Bomb หรือ มะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มสุดเกา! รับประกันความมันส์แบบเต็มรูปแบบ พร้อมเพลิดเพลินไปกับเพลงเกาหลีในร้านที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการปิ้งย่างไปอีกขั้นห
AKA K-Series ปักหมุดความอร่อยกับเมนูใหม่เอาใจสายเกา
  • เริ่มต้นที่ เครื่องเคียงสไตล์เกาหลีแบบไม่อั้น! อาทิ กิมจิ นามุรุผักโขม นามุรุถั่วงอก และยำแมงกระพรุน ที่ถูกเสิร์ฟใน ภาชนะใส่อาหาร ที่เป็นวัสดุสแตนเลสตามแบบฉบับของเกาหลี และมีน้ำจิ้มสูตรใหม่เสิร์ฟแบบ 3 ช่อง ประกอบด้วย สึเกะทาเระ (น้ำจิ้มซิกเนเจอร์ของอากะ), น้ำมันงาปรุงรส และน้ำจิ้มบาร์บีคิว
  • เมนูตามคำเรียกร้อง! ไส้หมูหมักกับซอสเผ็ด รสชาติหวานเผ็ด กินให้ฟินแบบไม่อั้น
  • ซัมกยอบซัล หมูสามชั้นย่างบนฟอยล์ หมูสามชั้นหมักซอสสไปซี่โกชูจัง ยกย่างทั้งฟอยล์ ผัดรวมกับกิมจิ นามุรุผักโขม และนามุรุถั่วงอก อร่อยครบรส เคี้ยวสนุกมันส์ทุกคำ
  • เกาหลีเกาใจไปกับซอสลูกแพร์ ราดบนหมูสันคอและหมูติดมัน กลิ่นหอมหวานรสชาติดีให้ฟิลเกาหลีสุด ๆ
  • พลาดไม่ได้กับ หมูและเนื้อพันต็อกบกกิซอสสไปซี่ เส้นต๊อกเหนียวนุ่ม เคี้ยวเพลินหนุบหนับมาพร้อมซอสสไปซี่เพิ่มความเกา รับรองฟินทุกคำ
  • เนื้อซี่โครงเต๋ากับสาหร่าย เนื้อซี่โครงเสิร์ฟแบบหั่นเต๋า ย่างสุกพอดี ห่อคู่กับสาหร่ายที่ผ่านความร้อนบนเตารับรองฟินสุดๆ
  • พร้อมเพิ่มรสชาติให้กับอาหารด้วย ‘ใบงาเกาหลี’  ที่ต้องนำใบงามาบังหน้า แล้วตามด้วยหมูหรือเนื้อ ตามด้วยกิมจิก็อร่อยเพิ่มขึ้นอีก และยำแมงกระพรุน เครื่องเครื่องที่เพิ่มความกรุบกรอบหวาน เผ็ด ให้ทุกคำ
  • จูม็อกบับ (ข้าวปั้นเกาหลี) ข้าวปั้นเกาหลี ขยำเอง คลุกผสมรวมกัน แล้วปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำ รสชาตินัว ๆ กลมกล่อม อร่อยออตอเค๊!
  • เมนูของหวาน ซูบักฮวาแซ (น้ำแข็งไสเกาหลี) เมนูสุดปังโด่งดังในโซเชียล สดชื่นด้วยสไปร์ทผสมนมสตรอเบอรี่ และผลไม้ เพิ่มความหวานได้แบบลงตัว
 
AKA K-Series สนุกแบบเมามันส์กับ AKA Lemon Bomb (มะนาวช็อตบอมบ์)
  • หนึ่งในวัฒนธรรมการดื่มแบบคนเกาหลี กับสูตรเด็ดโซแมกซ์ (Somaek) ที่ครีเอทขึ้นเฉพาะที่ร้าน AKA เท่านั้น กับ AKA Lemon Bomb หรือ มะนาวช็อตบอมบ์ โดยนำแก้วช็อตและตะเกียบวางบนแก้วโค้กหรือสไปร์ทสุดซ่าใบใหญ่ แล้วใช้ช้อนปัดจนแก้วร่วงลงก็ยกดื่มได้ทันที สร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นสีสันบนโต๊ะอาหารตามแบบซีรีย์ดังเลยทีเดียว (สำหรับ Meat Lover Buffet และ Regular Buffet สามารถสั่งซื้อมะนาวช็อตไม่อั้นเพิ่มในราคาเพียง 39++ บาท)
  • สร้างบรรยากาศที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการปิ้งย่างในแบบเกาหลีเกาใจให้ฟินขั้นสุด ทางร้านมีการเปลี่ยน เพลง ให้เป็นเพลงเกาหลีสนุก ๆ
คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เทรนด์ของอาหารเกาหลียังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแบรนด์ อากะ เป็นแบรนด์ที่พร้อมจะทำเรื่องสนุกเพื่อเป็นสีสันให้กับวงการร้านอาหารปิ้งย่าง และสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการนำจุดแข็งทั้งสองมุมนี้มาเจอกัน ด้วยการโปรโมทแคมเปญใหม่ ‘กินเกาให้เมามันส์’ ทั้งเมนูเกาหลีจัดเต็ม และวิถีการกินตามแบบเกาหลีแท้ ๆ รวมถึงการต่อยอดมะนาวช็อตที่เคยสร้างปรากฎการณ์ในแคมเปญ AKA Long shot ไปไม่นาน ถูกส่งต่อความสนุกมาถึงแคมเปญ K-Series ในวันนี้ กับ AKA Lemon Bomb หรือ มะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มสไตล์เกาหลี สุดมันส์ตบท้ายมื้อ รวมถึงวิธีการสื่อสารต่าง ๆ ก็ใช้ภาษาเกาหลีร่วม เพื่อเพิ่มเสน่ห์ความสนุกสไตล์เกาหลีและยังดึงดูดสายเกาทั้งหลายให้รู้สึกมีส่วนร่วมกับแคมเปญได้อีกด้วย ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้สามารถเติมเต็มความเป็นเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์ หวังว่าลูกค้าจะเข้ามากินเกาได้แบบเมามันส์ ตามคอนเซปท์ของแบรนด์ที่วางไว้”

เตรียมตัวมาฉลองปีใหม่แบบเกาหลีกับเมนูปิ้งย่างที่ถึงรสถึงเครื่องแบบฉบับเกาหลีแท้ ๆ งานนี้ใครขึ้นชื่อว่าสายเกาตัวจริงต้องไม่พลาด อากะ ขอท้าให้มาลองพิสูจน์ความเกาในแคมเปญ ‘กินเกาให้เมามันส์’ ได้ตั้งแต่ 8 ธันวาคม 2566 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ร้านอากะทุกสาขาทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/akarestaurant หรือ Line @ZENGroupTH 
9 พฤศจิกายน 2566
ตลาดปิ้งย่างสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ กับปรากฏการณ์ครั้งแรกของแบรนด์ ‘อากะ’ ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ ในแคมเปญฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาววววววว’ ต่อยอดมะนาวช็อต ตบท้ายมื้อปิ้งย่าง สู่ Product Killer ‘AKA LONG SHOT ดึงลูกค้าเข้าร้าน เผยหลังเปิดตัวแคมเปญได้เพียงเดือนเดียว ยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่เกิดจากเสียงของผู้บริโภค (Voice of Customer) ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างล้นหลาม และยังสามารถสร้าง Earned Media มูลค่าสูงถึง 280 ล้านบาท ได้แบบถล่มทลายทั่วโซเชียลโดย Real Consumer ที่ทรงพลังที่สุด จนทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นกว่า 200% ผ่านการสำรวจด้วย Social Listening 

คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แบรนด์ อากะ อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง มีแบรนด์คู่แข่งที่มีความแข็งแรง ส่งผลให้ทีมการตลาดทำงานกันอย่างหนัก เพื่อสร้าง Brand Differentiation เพิ่มความโดดเด่นเหนือคู่แข่งให้ได้มากที่สุด จนเป็นที่มาของแคมเปญที่เกิดจากเสียงผู้บริโภคอย่างแท้จริงในครั้งนี้

‘กลยุทธ์พลิกท่า ที่เปลี่ยน Journey ใหม่ในร้าน จากเมนูมะนาวช็อตปิดท้ายมื้อ สู่ AKA LONG SHOT สร้างโมเม้นท์ให้ Enjoy ตลอดทั้งมื้อ แถมยังนำกลับบ้านได้ด้วย’

“โดยเริ่มจากการทำ Research กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นแฟนตัวยงของแบรนด์อากะ ผลสำรวจพบว่า กลุ่มลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพวัตถุดิบ และชื่นชอบเมนูในร้านที่หลากหลาย ทั้งพอร์คชอปซอสอากะ, หมูสามชั้นซอสสไปซี่โกชูจัง, เบคอนเนื้อ AUS, กุ้งแม่น้ำ, เนื้อฮิระนิกุ และเมนูอื่น ๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจทั้ง 100% ของกลุ่มลูกค้า ยกให้มะนาวช็อตเป็นเมนู Killer Item ที่ต้องสั่งหลังจบมื้อทุกครั้ง ผนวกกับการทำ Consumer Observation ในกลุ่มคนรักบุฟเฟ่ต์ และการใช้ Social Listening Tools ก็ได้รับเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภคที่อยากให้แบรนด์อากะขายมะนาวช็อต และขยายไซส์ให้ใหญ่สะใจกว่าเดิมด้วย

ทั้งหมดนี้ได้ต่อยอดสู่ Product ‘AKA Long Shot’ มะนาวลองช็อต จุกสะใจ ซึ่งลูกค้าก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาไปพร้อมกับแบรนด์ด้วย โดยยังคงมี Brand Essence ที่ชูคาแรคเตอร์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน เต็มไปด้วยความสนุก และความครีเอทีฟ ผ่านการดีไซน์แพคเกจจิ้งที่มีรูปลักษณ์ที่ใครเห็นต้องสตั๊น แถมยังสามารถแก้ไข Pain Point ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ จนสามารถสร้าง Engagement ได้ทั้ง Online ที่มีการพูดถึงแบบถล่มทลายบนโซเชียล และ Offline ดึงลูกค้าเข้าร้าน กระตุ้นยอดขายได้แบบพุ่งทะยาน เกินเป้าที่คาดหวังไว้เลยทีเดียว” คุณมยุรี กล่าวเพิ่มเติม
นี่เป็นการฉลองครบรอบ 16 ปี ของแบรนด์ อากะ ที่สมศักดิ์ศรี ทั้งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ โมเม้นท์ความสนุกในมื้อปิ้งย่าง นอกจากเมนูไฮไลท์ AKA Long Shot และยังมีอีก 7 เมนูใหม่ ทั้งเบคอนเนื้อ AUS ยาว (เบคอนเนื้อในไห), เบคอนหมูยาวซอสเมเปิ้ล, หนวดปลาหมึกยักษ์ซอสอากะ, เนื้อติดมันพันชีสยืด, กุ้งเนยกระเทียมชีสยาว, ฮอตดอกซอสสไปซี่ และราเมนเย็น มาตอกย้ำความยืด ความยาว อิ่ม จุก แบบจัดเต็ม พร้อมด้วยการงัดกลยุทธ์ไม้เด็ด ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบความคุ้มค่า ด้วยการตั้งราคาที่สะใจมากยิ่งขึ้น เพียง 316++ บาท ตลอดทั้งแคมเปญ ถึง 19 พฤศจิกายน 2566 นี้เท่านั้น

ความสนุกยังไม่สุด! อากะ สร้างแรงกระเพื่อมให้กับผู้บริโภคอีกระลอก ด้วยการครีเอทกิจกรรม ชวนเล่นใหญ่ จัด AKA LONG SHOT CHALLENGE #อากะล่าตัวจี๊ดเปรี๊ยวซี๊ดถึงใจ แค่ถ่ายคลิปสุดจี๊ดในสไตล์คุณลง TikTok พร้อมติด #อากะล่าตัวจี๊ดเปรี๊ยวซี๊ดถึงใจ #AKALONGSHOTCHALLENGE รับส่วนลด 100 บาททันที และยังมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรับ E-Voucher กว่า 20,000 บาทอีกด้วย ระยะเวลาร่วมสนุกกิจกรรม ตั้งแต่ 10 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2566 ประกาศผลผ่าน TikTok AKA Japanese Restaurant ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566
“ทั้งนี้ทางแบรนด์ อากะ ก็จะยังคงรักษามาตรฐานในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และเราจะเป็นแบรนด์ที่พร้อมรับฟังเสียงของผู้บริโภค เพื่อมาต่อยอด Product ที่เกิดจาก Insight ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และมั่นใจว่าแคมเปญต่อไปก็จะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนแคมเปญฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาว’ นี้ เช่นเดียวกัน” คุณมยุรี กล่าวทิ้งท้าย

จากความสำเร็จของแคมเปญที่เกิดขึ้น ไม่แน่ว่าช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่ใกล้จะถึงนี้ ทางแบรนด์ อากะ ก็คงไม่พลาดที่
จะมอบเซอร์ไพรส์สนุก ๆ กันแบบต่อเนื่อง ผ่าน AKA LONG SHOT แต่จะเป็นรูปแบบไหน รสชาติอะไรนั้น ต้องรอติดตามทาง https://www.facebook.com/akarestaurant หรือ Line @ZENGroupTH แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้
 
9 พฤศจิกายน 2566
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG) จนได้รับการประเมินติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้มีการประกาศผลในรูปแบบเรตติ้ง โดยทาง เซ็น กรุ๊ป ได้รับผลประเมินเป็น ‘หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2566’ และผลรวมการประเมินที่ได้รับคะแนนรวมเพิ่มมากขึ้นในทุกปี สอดรับกับปรัชญาขององค์กร (Brand Philosophy) ที่ว่า ‘Goodness to Growth : เจตนารมณ์ที่ดี นำมาซึ่งการเติบโตอย่างยั่งยืน’ ด้วยเช่นกัน
 
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นยั่งยืน ได้ที่ www.setsustainability.com/ESG-ratings
8 กันยายน 2566
เซ็น กรุ๊ป เดินหน้าขยายสาขา ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ปักหมุดบนทำเลเมืองท่องเที่ยว พัทยา ภูเก็ต สมุย และหัวหิน ลุยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย มั่นใจครึ่งปีหลังการขยายสาขานี้จะช่วยผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 10 – 15% 

คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยล่าสุด คาดภาพรวมตลาดร้านอาหารมีมูลค่าประมาณ 4.35 แสนล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 7.1 จากปี 2565 โดยมีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวที่ส่งสัญญาณบวกฟื้นตัว สอดคล้องกับนโยบายของทางภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ ประกอบกับข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในช่วงครึ่งปีแรกสถานการณ์การท่องเที่ยวมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทย ยอดสะสมตั้งแต่ มกราคม – กรกฎาคม 2566 สูงกว่า 37 ล้านคน และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตได้ดีขึ้นอีก 
ทั้งนี้ทางเซ็น กรุ๊ป มองเห็นถึงทิศทางการเติบโตและโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ พร้อมปรับกลยุทธ์เล็งเป้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว เลือกทำเลขยายสาขาบนพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายยอดนิยมอย่าง พัทยา ภูเก็ต สมุย และหัวหิน”

ส่วนแผนการขยายสาขา เฉพาะสาขาที่ลงทุนเอง ของเครือเซ็น กรุ๊ป ได้แก่
  • ‘พัทยา’ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี กว่า 5 ล้านคน ในขณะที่อัตราตัวเลขยอดทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา เพิ่มขึ้นกว่า 80% จากปีก่อน ซึ่งมีกลุ่มที่ยังคงครองอันดับ 1 คือชาวไต้หวัน 35% รองลงมาคือ ชาวจีน 30% ตามด้วยชาวฮ่องกง 9% และ
    อื่น ๆ ทั้งหมดนี้เป็นข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าแลนมาร์คแห่งนี้ยังคงเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างดี สอดคล้องกับแผนในขยายสาขาของเครือเซ็น กรุ๊ป ผลักดันการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการลงทุนขยายสาขาของ 5 แบรนด์ในเครือ คือ De Tummour, ZEN Restaurant, AKA Yakiniku, On the Table และ Din’s สู่ทัวร์ริสต์มอลล์ อย่าง ‘ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา’ โดยเริ่มจาก De Tummour และ On the Table ที่เปิดสาขาในเดือนกันยายนนี้ และอีก 3 
    แบรนด์ ที่จะทยอยเปิดสาขาในเดือนธันวาคมนี้
  • ‘ภูเก็ต’ กับแบรนด์ ZEN Restaurant ที่ได้เปิดสาขาที่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะที่มี ZEN Restaurant และ On the Table สาขา เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า, ZEN Restaurant และ AKA Yakiniku เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต อยู่แล้ว คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมที่มียอดสะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตสูงกว่า 4 ล้านคน 
  • ‘สมุย’ ยังคงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอันดับต้น ๆ อ้างอิงจากยอดสะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานีกว่า 1.5 ล้านคน โดยมีแบรนด์ On the Table เปิดสาขาที่เซ็นทรัล สมุย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  
  • ‘หัวหิน’ เมืองที่ได้รับความสนใจทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง ปักหมุดหมายที่แบรนด์ AKA Yakiniku บนศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน ที่เปิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่หรือคนในพื้นที่ที่ชื่นชอบการทานปิ้งย่างและความคุ้มค่า
“การต่อยอดการเติบโตของธุรกิจอาหารของ เซ็น กรุ๊ป ผ่านแบรนด์ในเครือที่รุกขยายสาขาบนเมืองท่องเที่ยวทั้ง 4 จังหวัด พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทย คาดว่าภายในสิ้นปี 66 นี้ สาขาในเมืองท่องเที่ยวนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตได้เพิ่มอีกกว่า 10 - 15%” คุณบุญยง กล่าวทิ้งท้าย
 
8 กันยายน 2566
เดอ ตำมั่ว (De Tummour) ร้านอาหารไทยในเครือเซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ เซ็น กรุ๊ป ภายใต้คอนเซ็ปต์ 
‘The original Thai food’ ยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย พร้อมลุยตลาดร้านอาหารไทยแบบเต็มตัว ผ่านกลยุทธ์ 4P ปั้นโมเดลต้นแบบ Flagship Store โฉมใหม่ ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา หวังเพิ่มปริมาณลูกค้าชาวต่างชาติเข้าร้าน พร้อมผลักดัน Soft Power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแบบสร้างสรรค์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของคนไทย

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจอาหารไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แถมยังมีคู่แข่งน้องใหม่หลายรายที่กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นความท้าทายของธุรกิจที่จะต้องปรับตัวอยู่เสมอ โดยในปีนี้เราจึงได้มีการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ ลุยปั้นโมเดล Flagship Store โฉมใหม่ของ เดอ ตำมั่ว และยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย รวมถึงการสร้างภาพจำใหม่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นให้กับแบรนด์ ด้วยการวางกลยุทธ์ 4P เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย”

เดอ ตำมั่ว กับ กลยุทธ์ออกแบบใหม่ให้ครบทั้ง 4P เพื่อเสริมจุดแข็งให้กับแบรนด์ สู่การขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งวงการร้านอาหารไทย

Product 
เดอ ตำมั่ว วาง Position ของตัวเองเป็นร้านอาหารไทยแท้ ๆ การออกแบบเมนูก็จะเป็นการอิงจากเมนูที่เป็นสำรับไทย มีความครบรส ครบเครื่อง ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด และตำ รสชาติที่ตอบโจทย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นำมายกระดับไปอีกขั้นด้วยการเสริมประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเชฟ กับการนำเสนอเมนูต้มแซ่บเนื้อสันนอกวากิว (A3) โชว์การปรุงเมนูถึงโต๊ะอาหาร รินซุปจัดจ้านร้อน ๆ ผสมสมุนไพรหอมฟุ้ง หรือการยกระดับเมนูกุ้งกรุงศรี (กุ้งแม่น้ำย่าง) ที่ไม่เพียงเสิร์ฟคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดแต่เสิร์ฟมาพร้อมกับตำไทย, ผัดไทยที่เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นด้วยมันกุ้งนำไปคลุกเข้ากับเส้นผัดไทย, เนื้อสันนอกออสเตรเลียย่างจิ้มแจ่ว เนื้อชั้นเลิศบนกะทะร้อน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 รสชาติ, ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ปูนิ่มทอดกรอบตัวใหญ่ไซส์พิเศษ ผัดกับผงกะหรี่และไข่จนหอมมันเข้มข้น และชุดออเดิร์ฟของทอด รวมเมนูของทานเล่นไทยกับเมนูที่ประดิษฐ์ประดอย พิถีพิถัน ทั้งหน้าตาและรสชาติตามตำรับชาววัง ที่แนะนำให้สั่งก่อนเริ่มมื้ออาหาร

Place
ปักหมุด เดอ ตำมั่ว ในทัวร์ริสต์ มอลล์ อย่างเทอร์มินอล 21 พัทยา บนพื้นที่ที่มียอดทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเป็นหลัก คาดว่าทำเลที่ตั้งแห่งนี้จะสามารถดันยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายนี้ได้เป็นอย่างดี
ประกอบกับงานออกแบบร้าน เดอ ตำมั่ว ถูกเล่าผ่านคอนเซ็ปต์ ‘ครัวไทยบ้าน’ แรงบันดาลใจจากบ้านสไตล์ไทย ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ดูทันสมัย ถ่ายทอดภาพลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ออกมาได้เป็นอย่างดี ร้านจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนหน้าบ้าน เนรมิตตลาดชุมชนเล็ก ๆ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของคนในพื้นที่ และของฝากจากชุมชน เพื่อส่งต่อความตั้งใจในการผลักดัน Soft Power อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้และความแข็งแกร่งให้กับคนไทยด้วย
โซนในบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศ สบาย ๆ เป็นกันเอง ความตั้งใจที่อยากให้ลูกค้าเข้ามาทานอาหารรู้สึกเหมือนได้ทานข้าวบ้านเพื่อน ตกแต่งด้วยตู้กับข้าว โต๊ะและเก้าอี้ที่คละดีไซน์สไตล์แม่เลือก โดดเด่นด้วยการใช้เทคนิคเสริมช่องกระจกรับแสงบนเพดาน สไตล์บ้านไทยที่ชอบเปิดรับแสงธรรมชาติ การเลือกใช้โทนสีไทยโทน เขม่ายาง, เขียวปีกกา, แดงตัด, ในการตกแต่งภายในร้าน รวมถึงงานดีไซน์ทั้งหมดของร้านด้วย อีกทั้งยังแฝงงานหัตถกรรมที่ถือเป็นเสน่ห์ของไทย ด้วยการคอลแลปฯ กับ PDM แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของคนไทย อีกหนึ่ง Soft Power โชว์ผลงานที่เป็นผลิตภัณฑ์ เสื่อไทย เอกลักษณ์จากหัตถกรรมจักสานของคนไทย วัสดุพิเศษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย้อมด้วยสีไทยโทน ‘เขม่ายาง’ และลวดลายสวยงามที่เข้ากับวิถีคนยุคใหม่ นำมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบของทางร้านได้อย่างลงตัว

Price การกำหนดราคาขายของเมนูในร้าน ที่เหมาะสมกับคุณภาพและรสชาติของอาหารที่เสิร์ฟ 

Promotion กลยุทธ์การทำการตลาด ในช่วงแรกของการเปิดสาขาจะเน้นโปรโมชั่นการแถมเมนูพิเศษที่ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างกระบวนการส่งต่อความประทับใจแบบเรียล ๆ ด้วยการใช้ User Generated Content (UGC) การันตีคุณภาพ รสชาติ และประสบการณ์ที่ได้รับจากทางร้าน บน Social Platform ยอดนิยมของแต่ละประเทศ ช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างและยังกระตุ้นให้เกิดยอดขายที่มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้แบรนด์ เดอ ตำมั่ว ก็ยังคงเน้นการขายแฟรนไชส์เป็นหลักเช่นเดียวกับแบรนด์ไทยในเครือ ซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่โดดเด่นรองลงมาจากธุรกิจอาหารที่เป็นธุรกิจหลักของ เซ็น กรุ๊ป โดยในช่วงครึ่งปีแรก ปี 66 รายได้จากการให้สิทธิ
แฟรนไชส์ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าการปั้นโมเดลต้นแบบFlagship Store สาขานี้ จะสามารถดันยอดขายให้ธุรกิจอาหารเติบโต และภายใต้โมเดลเดียวกันนี้จะส่งผลให้สามารถต่อยอดการขายสิทธิแฟรนไชส์ให้เติบโตขึ้นได้ด้วยเช่นกัน” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย