TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป Q4 ปี 66 รายได้รวม 1,062 ล้านบาท อัพไซด์ค้าปลีกโต 72% ดันยอดรวมปี 66 แตะ 3,945 ล้านบาท

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

6 มีนาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งสายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ ชวนแวะมาเช็คอิน ส่องผลงานศิลปะสุดคิ้วท์
28 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
ปิ้งย่างอินเลิฟ! AKA สร้างกระแสช่วงวาเลนไทน์ ‘เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่รัก’ มอบ ‘ช่อหมูสื่อรัก’ กระชับมิตรแบรนด์คู่แข่งในตลาด แถมถูกจริตคู่รักนักปิ้ง สร้าง engagement ร่วมกันหวานฉ่ำ
12 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย" ท้าดวลนักกินจุทั่วไทย ร่วมชิงเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
18 มกราคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น เรสเตอร์รอง ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมความมงคลด้วยมื้ออาหารคุณภาพกับ 5 เมนูมังกรมงคล พร้อมเช็คดวงปัง ๆ ไปกับ หมอต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง
29 ธันวาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม
18 ตุลาคม 2564
“เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” หรือ ZEN ต้อนรับธุรกิจร้านอาหารไตรมาส 4 กลับมาคึกคัก ขานรับรัฐบาลผ่อนคลายล็อกดาวน์ขยายเวลาเปิดห้างและร้านอาหาร สร้างความเชื่อมั่นลูกค้าเริ่มกลับมานั่งทานในร้าน ดึงร้านอาหารในเครือแบรนด์ดังร่วมจัดโปรโมชั่นสร้างสีสันและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN ส่งปรโมชั่น  Grand Premium Buffet 999+ จัดเต็มหลากหลายเมนู และร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น AKA ฉลองครบ 14 ปี จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ราคาพิเศษ 3 เซ็ท เริ่มต้นที่ 299 บาท หวังกระตุ้นยอดขายเติบโตจากไตรมาส 3 กว่าเท่าตัว

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า แนวโน้มมธุรกิจร้านอาหารในช่วงไตรมาส 4 คาดการณ์ว่าเริ่มกลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น หลังจากการประกาศคลายล็อกดาวน์การให้ขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเป็น 21.00น.ประกอบกับโครงการ  ”ยิ่งใช้ยิ่งได้”  เปิดให้ใช้สิทธิสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแอปพลิเคชั่น ผลักดันให้การใช้บริการสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่เติบโตเพิ่มขึ้น ZEN Group วางแผนจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ โดยนำสองแบรนด์ดังร้านอาหารในเครือ ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN และร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น AKA เพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศการนั่งทานภายในร้าน ตลอดจนการกระตุ้นยอดขายเดลิเวอรี่ให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN จัดโปรโมชั่น  Grand Premium Buffet มี 2 ราคา คือ 699+ และ 999+ จัดเต็มหลากหลายกว่า 130 เมนู อาทิ  ปลาฮามาจิ เนื้อวากิว แซลมอนซาชิมิสดๆ หอยปีกนก ทูน่าอากามิ เป็นต้น โดยเริ่มตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 65 โดยมี 27 สาขาที่ร่วมรายการ สำหรับร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น AKA ฉลองครบ 14 ปี จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ราคาพิเศษ 3 เซ็ท ได้แก่  Meat Lover Buffet บุฟเฟ่ต์ที่สุดของความคุ้ม ราคาพิเศษ 299+ บาท (จากปกติ 339+ บาท)  Regular Buffet บุฟเฟ่ต์ที่สุดของความหลากหลาย ราคาพิเศษ 399+ บาท (จากปกติ 439+ บาท)  Premium Buffet ที่สุดของบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสุดพรีเมี่ยมกว่า 80 เมนู ราคาพิเศษ 499+ บาท (จากปกติ 549+ บาท)  เริ่ม 1 ตุลาคม 2564 - 12 ธันวาคม 2564  ที่ AKA ทุกสาขา

สำหรับร้านอาหารสตรีทฟู้ดส์ เขียง ได้จัดโปรโมชั่น 1 แถม 1  คู่ซี้ ชวนกันมาจัดจ้าน มาอร่อยด้วยกันกับอาหารจานเด็ด  อร่อยทั้งคู่กับ ข้าวกะเพราหมู ราคาโปรโมชั่น 125 บาท (ปกติ 250 บาท)  ข้าวกะเพราดิบเถื่อน (เนื้อโคขุน) + ข้าวกะเพราเทพหมู  ราคาโปรโมชั่น 140 บาท (ปกติ 280 บาท) โดยสามารถสั่งผ่าน 1376 Delivery เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทฯ เดินหน้าขยายสาขาอีก 15 สาขา เน้นรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก จากเป้าหมายทั้งปีจะเปิดให้บริการ 60 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 105 สาขา  

“หลังจากภาครัฐออกมาตรการคลายล็อกดาวน์เมืองอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการนั่งทานภายในร้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะซื้อกลับบ้าน (Take Away)  ซึ่งเชื่อว่าบรรยากาศธุรกิจร้านอาหารไตรมาส 4 เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับช่วงไฮซีซั่นในช่วงปลายปีนี้ ZEN Group พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารที่มีคุณภาพ สดใหม่ สะอาดปลอดภัย โดยพนักงานหน้าร้านทุกสาขาได้รับการฉีดวัคซีนสองเข็มแล้ว เพื่อให้บริการลูกค้าที่เข้ามานั่งทานภายในร้านได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทฯ คาดการณ์ว่าการจัดโปรโมชั่นครอบคลุมทั้งการนั่งทานภายในร้าน การซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี่ดังกล่าว จะผลักดันยอดขายเติบโตดีกว่าไตรมาส 3 กว่าเท่าตัว ” นายบุญยง กล่าว 
 
11 ตุลาคม 2564
นับเป็นความสำเร็จของ บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN ที่มุ่งพัฒนาการดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจ ความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ภายใต้การบริหารงาน ‘บุญยง ตันสกุล’ ซีอีโอ บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) นำบริษัทฯ ได้รับเลือกเป็น ‘หุ้นยั่งยืน’ ปี 2564 หรือ Thailand Sustainability Index (THSI) ปี 2564 ตอกย้ำถึงพันธกิจของ ZEN Group ที่ดำเนินธุรกิจมุ่งมั่นส่งมอบอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพต่อผู้บริโภค มีการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นสร้างสรรค์ ช่วยเหลือสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเสริมสร้างคุณภาพชีวิต การดูแลสุขภาพที่ดีกับพนักงาน และการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นโดยการสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืน 
6 ตุลาคม 2564
ต้อนรับเทศกาลกินเจอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับร้านอาหาร ZEN Group ที่งานนี้ ‘บุญยง ตันสกุล’ ซีอีโอ บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) ยกขบวน 5  แบรนด์ชั้นนำเสิร์ฟอาหารเจ 5 สไตล์ ได้แก่  On the Table  จัด J Festival อิ่มอร่อยกับอาหารเจ…สไตล์ฟิวชั่น อาทิ พิซซ่าสไปซี่เห็ดรวม, อโวคาโดเต้าหู้เย็น อาหารไทยสไตล์อีสานตำมั่ว นำเสนอเมนูอิ่มบุญ อิ่มใจกับเมนูเจ ลาบเห็ดสามอย่าง, เห็ดทอดสามเกลอ และร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN เสิร์ฟความอร่อยเมนูเจ สไตล์เจแปน โรลเต้าหู้อินาริผักรวมเจ, ยากิโซบะ เจ ตามด้วยอาหารสตรีทฟู้ดส์ เขียง จัด J Festival อร่อยกับ Plant Based Meat กับเมนูข้าวกะเพราไม่เนื้อ ด้วยโปรโมชั่นร้อนแรง 2 จานราคา 159 บาทจากปกติ 220 บาท ปิดท้าย Din’s อิ่มเจ สุขใจ สไตล์นีโอไต้หวัน โดยมีเมนูที่ชวนให้ลิ้มลองข้าวหน้าเต้าหู้ทรงเครื่องเจ หมี่ซั่วเจ สัมผัสกับอร่อยสไตล์เจ ได้แล้วเริ่มตั้งแต่ 1-15 ตุลาคม 2564 งานนี้ลูกค้าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงกับเมนูเด็ดสไตล์เจ แถมบรรยากาศคลาย ล็อกดาวน์ก็เป็นใจให้ลูกค้านั่งทานในร้าน เชื่อว่าผลักดันยอดขายในช่วงเทศกาลกินเจทะลุเป้าหมายแน่นอน 
1 กันยายน 2564
“เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” หรือ ZEN โชว์รางวัลมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ คว้ารางวัล Thailand Franchise Award 2021  โดยเขียงได้รับรางวัลสุดยอดแฟรนไชส์ไทยดาวรุ่ง  ส่วนตำมั่วควบ 2 รางวัลแฟรนไชส์ไทยอาหารยอดเยี่ยมและแฟรนไชส์ไทยขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตอกย้ำแบรนด์แฟรนไชส์ที่มีมาตรฐานระดับสากล หนุนนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศสนใจร่วมธุรกิจ พร้อมเปิดแผนรุกขยายแฟรนไชส์สวนกระแสเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50 สาขาในปีนี้ ล่าสุดเตรียมส่งแฟรนไชส์แบรนด์ญี่ปุ่นอากะออกสู่ตลาดในไตรมาส 4

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ
ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า จากการนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจสร้างการเติบโตผ่านการขายแฟรนไชส์ ภายใต้ร้านอาหารไทยอีสานแบรนด์ตำมั่ว,ลาวญวน  และร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ดส์แบรนด์เขียงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยที่บริษัทพัฒนาและสร้างสรรค์เมนูอาหารขึ้นมาเองเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย ล่าสุดทั้งสองแบรนด์คว้ารางวัล "Thailand Franchise Award 2021" จัดขึ้นโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตอกย้ำถึงการบริหารแฟรนไชส์ของ ZEN Group อย่างเป็นระบบและสร้างคุณภาพการดำเนินธุรกิจที่เป็นมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ ร้านอาหารเขียง คว้ารางวัลสุดยอดแฟรนไชส์ไทยดาวรุ่ง (Franchise Shining Star) ส่วนร้านอาหารตำมั่ว คว้ารางวัลถึง 2 รางวัล ได้แก่แฟรนไชส์ไทยอาหารยอดเยี่ยม (Best Food Franchise) และแฟรนไชส์ไทยขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม (Best Large Franchise) โดยผ่านหลักเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ (Total Franchise Quality Management – TQFM) นับว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์มากว่า 10 ปี โดยรางวัลดังกล่าวช่วยยกระดับแฟรนไชส์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากลยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์ทั้งผู้ประกอบการในประเทศไทยและต่างประเทศที่จะสร้างการเติบโตร่วมกับ ZEN Group

สำหรับแผนการขยายร้านแฟรนไชส์ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 50 สาขา จากเดิมที่มีอยู่ 212 สาขา แบ่งเป็น แฟรนไชส์เขียง 77 สาขา และตำมั่ว , ลาวญวน บาย ตำมั่ว 130 สาขา และเป็นแฟรนไชส์ออนเดอะเทเบิ้ลกับอากะ ที่พม่าและกัมพูชาจำนวน 5 สาขา โดยแฟรนไชส์เขียง ตำมั่วและลาวญวน เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและเติบโตสวนกระแสในสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกมีผู้สนใจลงทุนเปิดแฟรนไชส์รวม 21 สาขา และครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 30 สาขา และล่าสุดในช่วงไตรมาส 4 เตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างและชาบูแบรนด์ AKA เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีค่าแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท บนขนาดพื้นที่ 150-180 ตร.ม. รวมทั้งมุ่งขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในตลาดต่างประเทศในเชิงรุกมากขึ้น 

ทั้งนี้ ZEN Group มีความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในทุกมิติ ทั้งการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ การให้บริการเดลิเวอรี่ธุรกิจรีเทลหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหาร รวมทั้งการให้บริการนั่งทานภายในร้าน ซึ่งหลังจากรัฐบาลเริ่มปรับมาตรการผ่อนคลายในเดือนกันยายน สามารถเปิดให้บริการนั่งทานภายในร้าน 50-75% คาดว่าลูกค้าจะเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และหลังจากประเทศไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคกลับมามีไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารนอกบ้านอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นหรือเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ซึ่งจะผลักดันให้ธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวอย่างโดดเด่น 
16 สิงหาคม 2564
“เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” หรือ ZEN เผยศักยภาพการดำเนินธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง งบไตรมาส 2/64 ทำรายได้รวม 511 ล้านบาท เติบโต 51% แม้มีผลขาดทุนสุทธิ 67 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลง 14 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  หลังปรับกลยุทธ์ลุยเดลิเวอรี่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 ระลอกใหม่ ด้านธุรกิจรีเทลยอดขายพุ่งขานรับ Work From Home ผู้บริโภคปรุงอาหารทานเอง ส่วนแฟรนไชส์ตอบรับดีเกินคาด พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนุนผลงานครึ่งปีแรก เติบโต 14 % แม้มีผลขาดทุนสุทธิ 39 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลง 87 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เดินหน้าจัดโปรโมชั่นคุ้มค่าคุ้มราคา มั่นใจไตรมาสสุดท้ายบรรยากาศกลับมาคึกคัก  

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ถือว่าประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 (เมษายน – มิถุนายน 2564) แม้มีผลขาดทุนสุทธิ 67 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลง 14 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 511 ล้านบาท เติบโต 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลการดำเนินงานของเซ็นกรุ๊ปที่โดดเด่นเป็นผลจากบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์มุ่งให้บริการเดลิเวอรี่ รับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 นับตั้งแต่ภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์ผลักดันให้ผู้ใช้บริการเดลิเวอรี่เติบโตเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ธุรกิจรีเทลในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลาร้า, น้ำพริก, น้ำยำ, แจ่วบอง ฯ และอาหารพร้อมทาน ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องทำงานที่บ้าน และหันมาปรุงอาหารภายในครัวเรือนมากขึ้น  รวมทั้งการขายแฟรนไชส์เขียงและตำมั่วรวม 20 สาขา ถือว่าได้รับการตอบที่ดีเกินคาด ประกอบกับบริษัทฯ บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพในร้านอาหารที่อยู่ภายในศูนย์การค้า ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ส่งผลดีต่อภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2564) ทำรายได้รวม 1,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และแม้มีผลขาดทุนสุทธิ 39 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลง 87 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 

สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 3/2564 ผลดำเนินงานคาดการณ์ว่าลดลงถึงจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 โดยภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์ยกระดับคุมเข้มการระบาด ซึ่งร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าต้องปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา แม้ว่าเริ่มมีผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการเดลิเวอรี่ในห้างได้ โดยคาดการณ์ว่าภาพรวมธุรกิจร้านอาหารจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4/64 หลังจากประชาชนทยอยฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับวัคซีนทางเลือกที่จะเข้ามานั้นจะยิ่งส่งเสริมให้ประเทศเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยเช่าพื้นที่คลาวด์คิทเช่นเพื่อเป็นครัวกลางเสิร์ฟอาหารนอกศูนย์การค้า 5 แห่ง รองรับการกับความต้องการสั่งอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ให้กับร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN  ร้าน On The Table  และร้าน AKA ที่เติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ได้จัดแคมเปญโปรโมชั่นที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาสอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภค อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 และเมื่อซื้อผ่านแอปพลิชัน ‘Zen Group Sookciety’ ยังมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลายและบริการจัดส่งฟรี ด้วยแผนดำเนินงานที่สอดรับกับสถานการณ์จะผลักดันให้ผลดำเนินไตรมาส 4 กลับมาเติบโตได้ตามเป้าหมาย  
21 กรกฎาคม 2564
“เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” หรือ ZEN  ปรับโมเดลธุรกิจในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ รุกเช่าพื้นที่ร้านอาหารนอกห้าง หรือโรงแรมที่มีครัวและอุปกรณ์ครัว ชู 18 ทำเลที่มีศักยภาพ เตรียมส่งแบรนด์ดังเซ็น เรสเตอรองค์ ออนเดอะเทเบิ้ล และอากะ ลุยบริการเดลิเวอรี่และซื้อกลับบ้าน เสิร์ฟอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น เท่าตัวจากช่วงปกติ พร้อมหนุนสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือโรงแรมที่ต้องปิดกิจการชั่วคราว 

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services
) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการการล็อกดาวน์ยกระดับคุมเข้มการระบาด โดยห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเปิดให้บริการเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกยาและเวชภัณฑ์ ที่ฉีดวัคซีน เท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา เซ็น กรุ๊ป จึงปรับแผนดำเนินธุรกิจในช่วงนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยการเช่าพื้นที่ร้านอาหารนอกห้างหรือโรงแรมที่มีครัวและอุปกรณ์ครัว เพื่อให้บริการอาหารแบบเดลิเวอรี่และผูกปิ่นโต ภายใต้แบรนด์ เซ็น เรสเตอรองค์, ออนเดอะเทเบิ้ล และอากะ  

ทั้งนี้ เซ็น กรุ๊ป สนใจเช่าพื้นที่ร้านอาหาร หรือโรงแรมที่ปิดให้บริการชั่วคราว ในทำเลที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการกับความต้องการของลูกค้าครอบคลุมทุกโซนของกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่ ลาดพร้าว, อนุสาวรีย์, ทองหล่อ, สาทร, สีลม, เพลินจิต, พระราม 3 สาธุประดิษฐ์, รามอินทรา (แฟชั่นไอส์แลนด์), เจริญนคร, บางกะปิ, สยาม, พร้อมพงษ์, รัตนาธิเบศร์, งามวงศ์วาน, ปิ่นเกล้า, บางแค, บางนา, พระราม 9 เบื้องต้นมีระยะเวลาการเช่าพื้นที่ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป  หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายและผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดให้บริการทุกแผนก

“เนื่องจากร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าต้องปิดให้บริการชั่วคราวตามนโยบายภาครัฐ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ครั้งนี้  เซ็น กรุ๊ป เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าจึงพร้อมเสิร์ฟอาหารที่ดีมีคุณภาพ สะอาด สดใหม่และมีความปลอดภัย จึงมุ่งเน้นให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี่และผูกปิ่นโต โดยการเช่าพื้นที่ครัวในทำเลต่างของพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเปิดครัวใกล้บ้านให้ลูกค้าไม่พลาดกับเมนูอาหารจากแบรนด์ในเครือของเรา ซึ่งโมเดลธุรกิจในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านอาหาร ที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราวจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 อีกด้วย”  นายบุญยง กล่าว 

ขณะที่การให้บริการรูปแบบเดลิเวอรี่ นับตั้งแต่มาตรการล็อกดาวน์ ยอดผู้ใช้บริการเดลิเวอรี่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวเทียบกับช่วงปกติ โดยแบรนด์ที่มียอดการสั่งซื้อเติบโตอย่างชัดเจน ได้แก่ เขียง อาหารไทยสตรีทฟู้ด  และ ZEN Restaurant  มั่นใจว่าการเช่าพื้นที่เป็นครัวสำหรับเสิร์ฟเมนูอาหาร หรือผูกปิ่นโต ที่อยู่ในทำเลใกล้บ้านลูกค้ามากขึ้น จะผลักดันให้ยอดขายเดลิเวอรี่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากช่วงก่อนล็อกดาวน์ สำหรับผู้ที่สนใจให้เช่าพื้นที่สามารถส่งรายละเอียดให้พิจารณาดังนี้  ส่ง 1. Location (พร้อม Google map) 2. รูปหน้าร้าน ภายในร้านและห้องครัว 3.โซนของร้านอาหาร และ 4. ขนาดพื้นที่ครัว โดยสามารถติดต่อที่ info@zengroup.co.th หรือโทร. 084-6757553