TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป ดึงอินไซต์ลูกค้า สร้าง Emotional Marketing คิกออฟแคมเปญส่งท้ายปี ครีเอทโมเม้นต์ความสุขผ่านมื้ออาหาร
เซ็น กรุ๊ป ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าช่วงปลายปีกับการครีเอทโมเม้นต์ดี ๆ ผ่านมื้ออาหารจากแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ ภายใต้กลยุทธ์ Emotional Marketing ที่จะดึงอินไซต์ลูกค้ามาต่อยอดสู่แคมเปญส่งท้ายปีที่จะสร้างคุณค่าให้กับการทานอาหารและช่วยเติมเต็มความสุขทางใจที่มากกว่าแค่ความอร่อย เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าเดิมและขยายโอกาสสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่อยากร่วมฉลองปีใหม่ไปพร้อมกัน

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงปลายปี 2567 พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสะท้อนถึงการปรับตัวต่อสภาพเศรษฐกิจและไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงมีการใช้จ่ายกับร้านอาหารอยู่ โดยเฉพาะร้านที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวก ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่ดี รวมถึงคุณค่าที่ได้รับจากการทานอาหาร ส่งผลให้ช่วงปลายปีนี้แคมเปญส่งท้ายปีของแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ จึงใช้กลยุทธ์ Emotional Marketing โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนพิเศษของเรา เริ่มต้นตั้งแต่การดึงข้อมูลอินไซต์ของลูกค้ามาต่อยอดด้านเมนูอาหาร สร้างความประทับใจตลอดการใช้บริการ และร่วมสร้างโมเม้นต์ดี ๆ แห่งความสุขด้วยกัน

“เพราะเราเชื่อว่าอาหารให้มากกว่าแค่ความอร่อย”
‘ปลาแซลมอน’ เป็นวัตถุดิบที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘ZEN’ ซึ่งมียอดการสั่งมากกว่า 30% และคาดว่าจะมากขึ้นในทุกปี อีกทั้งในช่วงที่ออกเมนูใหม่ Salmon Freshtival เมื่อปี 66 ที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ช่วงปลายปีนี้ แบรนด์จึงนำวัตถุดิบ ‘ปลาแซลมอน’ ยกเป็นตัวแทนของการเฉลิมฉลองภายใต้แคมเปญ Oshogatsu Blessings เปิดรับสิ่งดี ๆ สู่ปีแห่งความมงคล พร้อมดึงดูดให้ลูกค้านัดรวมตัวฉลองกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนพิเศษ กับ 7 เมนูพิเศษที่ห้ามพลาด คือ แซลมอนเซริวมากิ, แซลมอนโคโรเกะอโวคาโมเล่, ปลาแซลมอนชิตาเกะย่างใบโฮบะ, แซลมอนซาชิมิ 5 สไตล์, เครซี่แซลมอนซาชิมิ, แซลมอนและท้องแซลมอนทอดผัดพริกเกลือกระทะร้อน
นอกจากเมนูอาหารที่อร่อยแล้ว ยังรับฟรี Rakki Hoodie แมวซูชินำโชค เมื่อสั่งเมนูในแคมเปญนี้ จำนวน 1 เมนู ร่วมกับเมนูอื่น ๆ ภายในร้านครบ 2,200 บาท และรับ Origami Bird นกกระเรียนพับฝีมือน้อง ๆ เด็กพิเศษจากมูลนิธิสถาบันแสงสว่างที่ตั้งใจมาร่วมอวยพรลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยไอเดียนกกระเรียนพับนี้มาจากความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวแทนของ ‘นกแห่งความสุข โชคลาภ และการมีอายุยืนยาว’ แคมเปญเริ่ม 21 พฤศจิกายน 2567 – 17 กุมภาพันธ์ 2568

‘พาสต้า’ เมนูเส้นที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘On the Table’ การันตีจากยอดขายการสั่งเฉพาะเมนูพาสต้าสูงถึง 13% ทำให้แคมเปญช่วงปลายปีนี้แบรนด์ตัดสินใจออกเมนูเป็นพาสต้าล้วน เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ หลายหลายรสชาติในครั้งเดียว จนเกิดเป็นแคมเปญยกขบวน ‘Pasta Parade’ ส่งท้ายสิ้นปีกับโต๊ะจัง นำทีมโดย ‘เฟตตูชินี่เพสโต้ทรี’ ที่ออกแบบเป็นพาสต้าต้นคริสต์มาส ใส่ซอสเพลสโต้ให้เป็นสีเขียว ประดับด้วยสม๊คแซลมอน กุ้งย่าง หอยโฮตาเตะ ท็อปปิ้งเพิ่มความฟินด้วยชีสเฟต้าสวยงามดุจเกล็ดหิมะ แถมยังมีอีก 3 เมนูพาสต้า คือ อูด้งเมนไตโกะคาโบนาร่า, คาเปลลินี่เย็นซีฟู้ด, เฟตตูชินีมิโสะบัตเตอร์และแซลมอนอบซอสเนยกระเทียม และเมนูของหวาน โทสต์เอิร์ลเกรย์บานาน่า รวมถึงเครื่องดื่มอย่าง เวอร์จิ้นไวท์แซงเกรีย อีกทั้งยังมีคลิปวีดีโอสั้นที่ถ่ายทอดมุมมองเรื่องความสุขบนโต๊ะอาหาร ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กที่วาดต้นคริสต์มาสลงบนกระดาษ ต่อยอดสู่เมนูไฮไลท์พาสต้าต้นคริสต์มาสให้ได้ชมอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทางแบรนด์ตั้งใจสร้างสรรค์มื้ออาหารแห่งการเฉลิมฉลองและเพิ่มสีสันให้เทศกาลส่งท้ายปีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แคมเปญเริ่ม 2 ธันวาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568

‘ชีส’ เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกสนุก ตรงกับคาแรคเตอร์ของ ‘AKA’ ยากินิกุ ที่จับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ที่อยากมาตะลุยกินปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์สุดคุ้ม จากข้อมูลพบว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีการสั่งเมนูชีสกว่า 10% จากออเดอร์ทั้งหมด ทำให้ช่วงปลายปีนี้แบรนด์ได้ออกแคมเปญ ‘ชีสนัว’ ครีเอทเมนูใหม่จากชีสกว่า 18 เมนู อาทิ 3 เมนูชีสดิป ชีสฟองดูว์, ชีสโรเซ่ฟองดูว์, ชีสทรัฟเฟิลฟองดูว์, เบคอนเนื้อ AUS พันชีส, เนื้อแกะพันชีสหม่าล่า, หอยเชลล์ย่างชัสทรัฟเฟิล, หอยเชลล์ย่างสไปซี่มิโสะชีส, กุ้งแม่น้ำชีสทรัฟเฟิล, ทรัฟเฟิลแมคแอนด์ชีส, กุ้งแม่น้ำสไปซี่มิโสะชีส และมะนาวช็อตครีมชีส เป็นต้น จนเป็นอีกหนี่งปรากฏการณ์ที่เรียกได้เต็มปากว่า ‘บุฟเฟต์ชีส’ ลูกค้าสั่งชีสมาเต็มโต๊ะเลยทีเดียว คุ้มค่าทั้งราคา คุณภาพวัตถุดิบ และสร้างโมเม้นต์แห่งความสนุกร่วมกันในช่วงส่งท้ายปีได้เป็นอย่างดี แถมยังกระตุ้นให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ในเรื่องความสนุกได้อย่างขึ้นใจ แคมเปญเริ่ม 15 ตุลาคม 2567 – 15 กุมภาพันธ์ 2568

‘วัตถุดิบตามฤดูกาล’ เป็นเสน่ห์ของร้าน ‘Sushi Cyu’ ที่นำเสนอความพิเศษของโอมากาเสะซูชิ ด้วยการเปิดประสบการณ์รสสัมผัสแห่งฤดูหนาว ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศประจำฤดูกาล อาทิ ปูขนญี่ปุ่น, อังกิโมะ ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล”, เสปิร์มไข่ปลาคอต, ไข่หอยเม่นจากฮอกไกโด และวัตถุดิบอีกมากมายมาให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับโอมากาเสะสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ ลิ้มลอง Winter Omakase Course ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

“แคมเปญเหล่านี้เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะเชื่อมโยงกับอารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจ และสร้างการจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกแบรนด์ในเครือของเราจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในทุกช่วงเวลาสำคัญของลูกค้าคนพิเศษของเรา คาดว่าในช่วงส่งท้ายปีจะสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดร้านอาหารอย่างคึกคักแน่นอน” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line @ZENGroupT
4 ธันวาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
19 สิงหาคม 2563
นายบุญยง  ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นกรุ๊ปประธานในพิธี มอบทุนการศึกษาในโครงการ ทุนเซ็นเพื่อบุตรพนักงาน ประจำปี 2563” ให้แก่บุตรพนักงานบริษัทในเครือที่มีผลการเรียนดี จำนวน 60 ทุนๆ ละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 300,000 บาท เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้แก่บุตรของพนักงาน
17 สิงหาคม 2563
นายบุญยง ตันสกุล (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสาวสุจันท์ภา พลางกูร (ขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์ญี่ปุ่น และนางสาวพัชนีวรรณ ตันประวัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN GROUP จัดแคมเปญใหญ่ ‘อากะ ฉลองครบรอบ 13 ปี มอบประสบการณ์มื้อปิ้งย่างสุดพิเศษคืนกำไรแก่ลูกค้าเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการที่อากะมาตลอด 13 ปี พบกับโปรโมชั่น Meat Lover Buffet ในราคาเพียง 313+ บาท (จากปกติ 339+ บาท) ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2563 - 15 พฤศจิกายน 2563 ที่ ร้านอากะ ทุกสาขา พิเศษกับกิจกรรมอากะ ยากินิกุเดย์ 2020” ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2563 ณ ร้านอากะ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าบัตรสมาชิกอากะที่มียอดรับประทานอาหารสูงสุด 13 รางวัล (รางวัลละ 2 สิทธิ์) และจำนวนครั้งที่มารับประทานอาหารสูงสุด 13 รางวัล (รางวัลละ 2 สิทธิ์) รวมทั้งสิ้น 26 รางวัล พร้อมรับสิทธิ์ทานมื้อปิ้งย่างแบบพิเศษ พร้อมเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงแคมเปญอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อตอบแทนลูกค้า
6 สิงหาคม 2563
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN ประเมินแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ เร่งสปีดเต็มสูบตั้งเป้าหมายกลับมาสร้างผลกำไรที่ดีตั้งแต่ครึ่งปีหลัง ชี้ดีมานด์ธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวเร็ว ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คาดเป็นจุดต่ำสุดหลังปริมาณลูกค้าทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในช่วงกว่า 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ หลังจากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ของโรค COVID-19 ได้ดี ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจในการ
ใช้ชีวิตนอกบ้าน ขณะที่ร้านอาหารตามสถานที่ต่างๆ สามารถเปิดให้บริการนั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ ภายใต้การให้บริการแบบ New Normal ที่ต้องเน้นมาตรการด้านความสะอาดอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงวางเป้าหมายนำบริษัทฯ กลับมาสร้างผลกำไรที่ดีนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป

ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 จะปรับตัวดีขึ้น หลังจากลูกค้าทยอยใช้บริการร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ของเซ็น กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ปริมาณลูกค้าของร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ จะเพิ่มขึ้นกลับมาใกล้เคียงช่วงปกติก่อนที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เน้นเพิ่มขีดสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น จากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย การปรับพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ร้านอาหารโดยมุ่งเน้น 7 แบรนด์หลักที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและได้รับผลกระทบไม่มากในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย การกระจายสัดส่วนรายได้จากช่องทางเดลิเวอรี่ รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดำเนินการไปแล้วเพื่อรับกับเป้าหมายที่ต้องการกลับมาสร้างการเติบโตที่ดี

“เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และหากรัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค รวมถึงเริ่มทยอยเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติบางส่วน สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้บ้างภายใต้มาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังอย่างรัดกุม ก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังกลับมามีกำไรได้ตามเป้าหมาย” นายบุญยง กล่าว
15 กรกฎาคม 2563
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN เปิดเกมรุกครึ่งปีหลังรับธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัว หลังภาครัฐคลายมาตรการล็อกดาวน์ หนุนบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้น ผู้บริโภคกลับเข้าใช้บริการร้านอาหารเฉลี่ย 80-85% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ มั่นใจพร้อมเทิร์นอะราวด์ เร่งสปีดเปิด เขียงร้านอาหารไทยตามสั่งแนวสตรีทฟู้ด คาดสิ้นปีนี้มีร้านเปิดบริการแตะ 100 สาขา เน้นขยายสาขารูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก ย้ำมาตรการ 6S ด้านสุขอนามัยภายในร้านอย่างเข้มงวด พร้อมรุก  เดลิเวอรี่อย่างต่อเนื่องเพิ่มทุกแพลตฟอร์มตั้งเป้าสัดส่วนรายได้กว่า 10% ของยอดขายรวมปีนี้  

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีความมั่นใจที่จะนำบริษัทฯ กลับมาสร้างผลกำไรที่ดีอีกครั้ง หลังจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจากมาตรการเคอร์ฟิวและการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม และคาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของการดำเนินงานในปีนี้ เนื่องจากภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่ทยอยกลับมาเปิดให้บริการมากขึ้น

ขณะที่ร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ปในพอร์ตโฟลิโอที่มีทั้งสิ้นกว่า 10 แบรนด์ในปัจจุบัน รองรับลูกค้าหลากหลายเซ็กเมนต์ อาทิ แบรนด์ AKA, ZEN, On the Table ฯลฯ  พบว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ทั้งในและนอกศูนย์การค้า มีลูกค้ากลับมาใช้บริการนั่งทานภายในร้านเฉลี่ย 80-85% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ถือว่าฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

“โดยภาพรวมร้านอาหารทุกแบรนด์ของเราถือว่าฟื้นตัวได้เร็วแบบ V Shape เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกับแบรนด์มากขึ้น สามารถเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศและใช้ชีวิตนอกบ้านได้ หลังจากรัฐบาลทยอยผ่อนคลายให้ธุรกิจต่างๆ ทยอยเปิดบริการ และไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศอย่างต่อเนื่องหลายวัน จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะกลับมาทำผลการดำเนินงานได้ดีในครึ่งปีหลัง” นายบุญยง กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเซ็นกรุ๊ป กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่เพื่อสร้างบริษัทฯ ให้กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมและพร้อมผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ 1.การปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการต้นทุน 2. ปรับร้านอาหารบางสาขาเป็นรูปแบบ Virtual  Kitchen หรือครัวกลางที่สามารถรองรับการปรุงอาหารแบรนด์อื่นในเครือเซ็นกรุ๊ปได้ เช่น ร้านลาวญวณหรือตำมั่วบางสาขาที่สามารถปรุงอาหารแบรนด์เขียงได้ เพื่อเพิ่มยอดขายในแต่ละสาขา

3. ขยายสาขาร้านอาหารไทยตามสั่งแบรนด์ ‘เขียง’ เน้นโมเดลแฟรนไชส์ ซึ่งแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา และยังเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร โดยมีโอกาสคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 2-3 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาเปิดสาขาเขียงเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมดกว่า 70 แห่ง และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยายเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 สาขา ซึ่งจะเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยตามสั่งที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย

และ 4. เพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางเดลิเวอรี่อย่างต่อเนื่องผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ได้แก่ แกร็บฟู้ด ไลน์แมน เก็ท ฟู้ดแพนด้า สั่งอาหารออนไลน์ร้านในเครือของบริษัทผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1376 Delivery  และพัฒนาเมนูใหม่ภายใต้ชื่อ Chicken Z (ชิกเก้นซี) ไก่ทอดสูตรลับฉบับเซ็นที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้บริการลูกค้าสั่งซื้อแบบเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ ปัจจุบันมี 12 สาขาที่ให้บริการแบบเดลิเวอรี่ได้ คาดว่าสัดส่วนรายได้เดลิเวอรี่ของบริษัทฯ จะเพิ่มเป็นประมาณ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 10% จากยอดขายรวมในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุดในร้านอาหารทุกสาขาอย่างเข้มงวด โดยวางมาตรการ 6S เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ได้แก่ 1.Supply Chain Control ควบคุมแหล่งที่มาของวัตถุดิบและการจัดส่งตามมาตรฐาน GMP  2.System มีทีมตรวจสอบการปฎิบัติงานเพื่อควบคุมมาตรฐานการปรุงอาหารที่สุกสะอาด ปลอดภัย เช่น พนักงานเข้มงวดในการจัดเก็บอาหาร และอุปกรณ์ทำอาหารให้ถูกสุขอนามัย เป็นต้น 3. Staff Screening พนักงานต้องผ่านการคัดกรองก่อนเข้างานและสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันระหว่างการทำงาน 4. Social Distancing จัดผังที่นั่งในร้านมีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตรและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส สแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล 5. Separate Equipment อุปกรณ์ทานอาหารของลูกค้าต้องใช้แยกกัน และได้รับการฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน 6. Safe Delivery เมนูที่ลูกค้าซื้อกลับบ้านหรือเดลิเวอรี่ ต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของร้าน
 
24 มิถุนายน 2563
Sushi Cyu & Carnival Yakiniku (ซูชิชู แอนด์ คาร์นิวัล ยากินิคุ) ร้านซูชิและปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยม ภายใต้บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดสาขาใหม่ ณ ชั้น 7 โซนฮีลิกซ์ สกาย ไดนิ่ง ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ พร้อมรังสรรค์ความอร่อย คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพสูงส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ผ่านการปรุงด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียดจากเซฟมากประสบการณ์ จัดเสิร์ฟภายใต้บรรยากาศเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พิเศษกับโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านลด 15%(เฉพาะโซนยากินิคุ)  ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2563

Sushi Cyu & Carnival Yakiniku (ซูชิชู แอนด์ คาร์นิวัล ยากินิคุ) ภายใต้บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นร้านซูชิและปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยม โดยคำว่า “CYU” มาจากชื่อผู้ก่อตั้งชาวญี่ปุ่น  มีความหมายว่า “ความจงรักภักดิ์ดี ความจริงใจ” และยังพ้องเสียงกับคำในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่าตรงกลาง สื่อความหมายว่า “เราจะซื่อสัตย์กับรสชาติที่แท้จริงของอาหารญี่ปุ่น เพื่อเข้าไปอยู่ในหัวใจของลูกค้า” ซึ่งโลโก้ยังได้รับการออกแบบจากนักเขียนพู่กันญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ภายในร้านยังใช้รูปเชือกที่มีลักษณะผูกไขว้กันอย่างสวยงาม ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมใช้ผูกของขวัญสำหรับมอบให้กับคนสำคัญในโอกาสพิเศษ ดังนั้นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารทุกคำจึงถูกคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพสูงและส่งตรงจากญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกคำของอาหารเป็นเสมือนของขวัญชิ้นพิเศษที่มอบให้กับลูกค้าทุกคน

ปัจจุบัน Sushi Cyu & Carnival Yakiniku มี 4 สาขา ได้แก่ สาขาอาคาร All Seasons Place ถนนวิทยุ, สาขา Eight Thonglor, สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, และสาขาล่าสุดศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์  ซึ่งทุกสาขาจะถูกออกแบบและตกแต่ง ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยสาขาศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์  ซึ่งเป็นสาขาล่าสุดของ “Sushi Cyu & Carnival Yakiniku” ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น เน้น Concept Japanese Contemporary ในร้านจะแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนโอมากาเสะ เน้นคุมโทนด้วยสีขาวและไม้สีอ่อน ทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัด ให้ความรู้สึกเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่น โดยที่นั่งจะถูกออกแบบให้เป็นแบบเคาน์เตอร์อยู่ด้านหน้าเชฟ  ซึ่งลูกค้าสามารถนั่งมองเชฟทำซูชิสดๆ ที่ได้รับการเสิร์ฟจากมือเชฟได้เลย นอกจากเชฟคนไทยที่มีความเชี่ยวชาญในอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ทุกสาขาจะมีเชฟที่มากประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อช่วยกันรังสรรทุกเมนูด้วยความใส่ใจ จัดเสิร์ฟให้ลูกค้าเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ในการทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง  

สำหรับเมนูไฮไลน์อยู่ที่คอร์ส “โอมากาเสะ” ซึ่งซูชิแต่ละชิ้น จะรังสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดจากเชฟผู้มากประสบการณ์ และจะจัดเสิร์ฟซูชิแต่ละชิ้นทันทีที่ปรุงเสร็จ โดยเรียงจากซูชิที่มีความมันน้อยไปหามาก เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความสดใหม่ที่สุด และเข้าถึงการทานซูชิในแบบฉบับของญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง โดยคอร์สโอมากาเสะ แบบ 10 คำ ราคา 2,200 บาท, คอร์ส 14 คำ ราคา 3,300 บาท ซึ่งเป็นราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบที่นำเข้าจากญี่ปุ่นสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง ที่พลาดไม่ได้เลย  คอร์สตามฤดูกาลที่รังสรรโดยเชฟญี่ปุ่นที่จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตากฤดูกาลของญีปุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์อันพิเศษสุดเหมือนบินไปทานที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ส่วนผู้ชอบทานเนื้อต้องไม่พลาดกับ โซนยากินิคุ หรือปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่คัดเฉพาะเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมและมีใบรับรองแหล่งที่มาเท่านั้น  เนื้อ Omi เป็นเนื้อ Wagyu ดำที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงดูด้วยสิ่งที่แวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์และใกล้ทะเลสาบบิวะ เป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานที่สุดในญี่ปุ่นกว่า 400 ปี ที่ ทั้งในอดีตเป็นอาหารที่เสริฟให้โชกุนอย่างสม่ำเสมอ โดยเชฟจะคัดเฉพาะส่วนของเนื้อที่เหมาะกับการปิ้งย่างมาจัดเสิร์ฟ เช่น เนื้อสันใน เนื้อสันคอพิเศษ และเนื้อส่วนกลางสะโพก เป็นต้น หากลูกค้าชอบลิ้มลองความหลากหลาย แนะนำเป็น Omi Omakase Mori ที่รวบรวมอร่อยไว้ในจาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้รสชาติที่หอมหวาน นุ่มอร่อย และละลายในปากอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เราจะมีเนื้อ Miyazaki และเนื้อไทย   เฟรนช์ที่คัดสรรมาให้เลือกหลากหลาย แน่นอนว่าเราคัดแต่เกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น ยังมีเมนูชาบู และสุกี้ยากี้ที่เสิร์ฟด้วยเนื้อไทยเฟรนช์/หมู ไว้เป็นเมนูทางเลือก  รวมทั้งเมนูทานเล่น เช่น สลัดผักย่าง เต้าหู้เย็นเมนไทโกะ เทมปุระ และสาเกที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นให้ลูกค้าได้จิบเพลินๆ คู่กับการรับประทานอาหารอีกด้วย
8 มิถุนายน 2563
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้นำธุรกิจร้านอาหาร เตรียมความพร้อมร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป ให้กลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมนำเมนูปลาดิบกลับมาให้บริการลูกค้าอีกครั้งในร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ที่รัฐบาลได้มีมาตราการผ่อนคลายระยะ 3 ส่งผลดีทำให้แบรนด์ร้านอาหารในเครือฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า “ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น พร้อมนำเมนูปลาดิบกลับมาให้บริการลูกค้า โดยปลาแซลมอนสดที่จำหน่ายภายในร้านอาหารในเครือนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสภาอุตสาหกรรมนอร์เวย์ว่าสามารถรับประทานแบบดิบได้ เช่น เมนูซูชิ ซาซิมิที่ปราศจากการแช่แข็ง เนื่องจากผ่านกรรมวิธีการเลี้ยงแบบพิเศษ และควบคุมการจัดส่งจากต้นทางอย่างเข้มงวดทุกกระบวนการ จึงมั่นใจได้ว่าจะปราศจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่และพยาธิปนเปื้อน

“เซ็นกรุ๊ป” ทำงานร่วมกับสมาคมการค้าอาหารทะเล ประเทศนอร์เวย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยไร้ไวรัสและเชื้อโรคต่างๆ ทั้งนี้ การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนจากนอร์เวย์จะต้องปฏิบัติตามกฏข้อบังคับของสหภาพยุโรปอย่างเข้มงวดเพื่อรองรับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นอาหารที่มีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยในแต่ละปีประเทศนอร์เวย์ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามสารพิษตกค้างในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด และมีสถาบันวิจัยทางทะเลเป็นผู้ดำเนินการวิจัยในนามของหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารของนอร์เวย์

ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น นำเมนูปลาดิบกลับมาจำหน่ายให้ลูกค้าครบทุกสาขาภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ แบรนด์ร้านอาหารในเครือฯ พร้อมกลับมาให้บริการลูกค้าแบบเต็มรูปแบบ เราให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า โดยคาดว่าจะมีผลทำให้ยอดขายของร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากเดิมเมนูอาหารประเภทปลาดิบคิดรายได้เป็นอัตราส่วนกว่า 50% ของยอดขายรวมทั้งหมด และในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทางร้านได้งดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากมาตราการเรื่องการรับประทานอาหารปรุงสุก

ล่าสุดหลังจากสถานการณ์ที่รัฐบาลได้มีมาตราการผ่อนคลายระยะ 3 ให้ภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในการกลับมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจ ทำให้มียอดขายรวมของร้านอาหารในเครือเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี รวมถึงหากมีมาตราการผ่อนคลายเพิ่มเติม สถานการณ์จะยิ่งดีขึ้น และจะทำให้เพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารในเครือกลับมาดียิ่งขึ้นอีก” นายบุญยงกล่าว