TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป Q4 ปี 66 รายได้รวม 1,062 ล้านบาท อัพไซด์ค้าปลีกโต 72% ดันยอดรวมปี 66 แตะ 3,945 ล้านบาท

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

6 มีนาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งสายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ ชวนแวะมาเช็คอิน ส่องผลงานศิลปะสุดคิ้วท์
28 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
ปิ้งย่างอินเลิฟ! AKA สร้างกระแสช่วงวาเลนไทน์ ‘เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่รัก’ มอบ ‘ช่อหมูสื่อรัก’ กระชับมิตรแบรนด์คู่แข่งในตลาด แถมถูกจริตคู่รักนักปิ้ง สร้าง engagement ร่วมกันหวานฉ่ำ
12 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย" ท้าดวลนักกินจุทั่วไทย ร่วมชิงเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
18 มกราคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น เรสเตอร์รอง ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมความมงคลด้วยมื้ออาหารคุณภาพกับ 5 เมนูมังกรมงคล พร้อมเช็คดวงปัง ๆ ไปกับ หมอต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง
29 ธันวาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม
16 มีนาคม 2563
บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN เปิดแผนธุรกิจปี 2563 รับมือโควิด - 19 ส่งผลกระทบกับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารทั้งระบบ มองเป็นโอกาสเพิ่มยอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่ เดินเกมรุกปรับพื้นที่ครัวร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ZEN เฟสแรก 5 สาขา เป็น ‘ครัวกลาง’ ของร้านอาหารในกลุ่ม ZEN เพื่อรองรับออเดอร์เดลิเวอรี่ที่กำลังเติบโต  ลุยปั้น ‘เขียง’ ร้านอาหารตามสั่งเป็นเรือธงขยายสาขาในปีนี้ คาดเปิดสาขาใหม่ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง ภายใต้กลยุทธ์ Collaboration และโมเดลแฟรนไชส์ พร้อมร่วมมือพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่กลุ่ม บมจ.หาดทิพย์ ตั้งบริษัทร่วมทุนขยายสาขาเขียง ในพื้นที่ภาคใต้

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังการใช้ชีวิตภายนอกบ้าน ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงในช่วงนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกลางปีนี้และอาจทำให้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โดยพบว่าช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมายอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่และธุรกิจอาหารค้าปลีก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง เช่น หมี่มั่ว และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน อาทิ น้ำพริกปลาร้า น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มไก่ ยังเติบโตได้ เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมมาสั่งอาหารมารับประทานและซื้อกับข้าวหรืออาหารสำเร็จรูปเพื่อนำมาปรุงเองหรือรับประทานที่บ้านเพิ่มขึ้น รวมถึงเน้นเรื่องความสะอาดและการรับประทานอาหารปรุงสุก

ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ปรับระบบบริหารจัดการภายในร้านให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยดำเนินการปรับพื้นที่ครัวของร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ZEN เป็น ‘ครัวกลาง’ ของร้านอาหารกลุ่ม ZEN เพื่อรองรับออเดอร์เดลิเวอรี่ที่กำลังเติบโตและสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าในสภาวะปัจจุบัน เริ่มดำเนินการเฟสแรก 5 สาขา ได้แก่ สาขาดองกิ มอลล์ ทองหล่อ, สยามสแควร์ วัน, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะแจส วังหินและอาคาร All Season กำหนดเปิดบริการในวันที่ 18 มีนาคม 2563

นอกจากนี้ นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้ปรับพอร์ตธุรกิจร้านอาหารให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสขยายสาขาภายนอกศูนย์การค้าและเพิ่มสัดส่วนรายได้จากร้านอาหารหลากหลายสไตล์ ได้แก่ การเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ อาทิ ‘เขียง’ ร้านอาหารตามสั่งรสชาติจัดจ้านในราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ปัจจุบันเปิดบริการแล้วประมาณ 60 สาขา จากพอร์ตร้านอาหารทุกแบรนด์รวมกันกว่า 340 สาขา, ‘FOO Flavor’ ร้านอาหารสไตล์ไทยฟิวชั่นที่สร้างความแปลกใหม่ในด้านรสชาติ, Din’s ร้านอาหารจีนจานด่วนที่ซื้อแฟรนไชส์จากญี่ปุ่น ฯลฯ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางขยายสาขาในปี 2563 จะเน้นการขยายสาขาแบรนด์ ‘เขียง’ ภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 100 สาขา โดยเน้นความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรชั้นนำภายใต้กลยุทธ์ ‘Collaboration’ รูปแบบต่างๆมากขึ้น ทั้งการร่วมทุนเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประกอบการชั้นนำที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาคหรือระดับจังหวัด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและร่วมมือกันขยายสาขาเชิงรุกได้อย่างรวดเร็ว  ตลอดจนการขยายธุรกิจด้วยโมเดลแฟรนไชส์ โดยการแต่งตั้งผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่สนใจธุรกิจร้านอาหารเพื่อให้สิทธิ์แฟรนไชส์ขยายสาขาในแต่ละจังหวัด โดยผู้ที่สนใจเป็นแฟรนไชส์สามารถติดต่อได้ที่อีเมล์ franchisebusiness.div@
zengroup.co.th

จากกลยุทธ์ดังกล่าวนำมาสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ZEN  และกลุ่มบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมรายใหญ่ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘โคคา-โคลา’ ในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท กินดีอยู่ดี 2020 จำกัด โดย บมจ.หาดทิพย์ ถือหุ้น 75% ผ่านบริษัท หาดทิพย์ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจเจส จำกัด และ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ถือหุ้น 25% ผ่านบริษัท เซ็น แอนด์ สไปซี่ จำกัด  

“ความร่วมมือดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะขยายร้านเขียงในภูมิภาค โดยสามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์กับพาร์ทเนอร์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขยายสาขาในภาคใต้ได้อย่างรวดเร็วครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวจะมีร้านเขียงเปิดบริการในภาคใต้ครบทุกจังหวัด” นายบุญยง กล่าว

นอกจากนี้ ในปี 2563 บริษัทฯ มุ่งจะเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านโครงการ CSR ภายใต้แนวคิด ‘ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคในทุกๆด้าน’ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่ดี การบริการที่จริงใจอย่างมืออาชีพ จึงได้เริ่มโครงการ
‘พลังเซ็นเพื่อสังคม’ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ขาดโอกาสทางสังคม เช่น ร่วมสนับสนุนเงินทุนให้โครงการวิสาหกิจชุมชนจังหวัดชัยนาท เพื่อพัฒนาเป็น ‘ใจดีฟาร์ม’ โดยการสนับสนุนผู้พิการในพื้นที่ปลูกเมล่อน พร้อมรับซื้อเพื่อนำมาพัฒนาเป็นเมนูอาหรภายในร้าน และร่วมกับมูลนิธิขอบฟ้ากว้าง ในจังหวัดขอนแก่น ส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนและผู้ปกครองของกลุ่มเด็กพิเศษให้มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนโดยการสั่งซื้อไก่พันธุ์ KKU1 ที่วิจัยโดยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีจุดเด่นด้านปริมาณไขมัน คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอร์ไรด์และยูริกต่ำ เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในร้านอาหารเครือ ZEN
2 มีนาคม 2563
บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN  ให้ความมั่นใจผู้บริโภคจากความกังวลในการทานเนื้อปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ยืนยันสามารถรับประทานได้หลังสภาอุตสาหกรรมนอร์เวย์รับรองความปลอดภัย เนื่องจากมีกรรมวิธีการเลี้ยงดูที่เข้มงวดและกระบวนการติดตามสารพิษตกค้างในการเพาะเลี้ยง พร้อมวางมาตรการด้านความสะอาดอย่างเข้มงสดภายในร้านอาหาร เพื่อให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ  

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services)
เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือสัมผัสกับอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ดิบยังไม่ได้รับการปรุงสุก ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีโอกาสได้รับเชื้อที่อาจปนเปื้อนมากับอาหารได้นั้น บริษัทฯ มีความมั่นใจในมาตรฐานความสะอาดของปลาแซลมอนสดจากประเทศนอร์เวย์ที่จำหน่ายภายในร้านอาหารของเครือ ZEN Group โดยลูกค้าสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ปนเปื้อนในแซลมอน

ล่าสุด สภาอุตสาหกรรมนอร์เวย์ได้รับรองความปลอดภัยแซลมอนจากนอร์เวย์ว่าสามารถรับประทานแบบดิบได้ เช่น เมนูซูชิ ซาซิมิที่ปราศจากการแช่แข็ง เนื่องจากผ่านกรรมวิธีการเลี้ยงแบบพิเศษ โดยการใช้อาหารแห้งที่ผ่านกรรมวิธีอบด้วยความร้อน จึงมั่นใจได้ว่าจะปราศจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่และพยาธิปนเปื้อน

ทั้งนี้ การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนจากนอร์เวย์จะต้องปฏิบัติตามกฏข้อบังคับของสหภาพยุโรปอย่างเข้มงวดเพื่อรองรับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นอาหารที่มีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยในแต่ละปีประเทศนอร์เวย์ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามสารพิษตกค้างในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด และมีสถาบันวิจัยทางทะเลเป็นผู้ดำเนินการวิจัยในนามของหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารของนอร์เวย์

ส่วนมาตรการให้ความมั่นใจแก่ผู้บริโภคที่มารับประทานอาหารภายในร้านอาหารเครือ ZEN Group บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของลูกค้าและพนักงานทุกคน เพื่อป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยมีมาตรการต่างๆ ได้แก่ 1. บริการเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือบริเวณเคาน์เตอร์ 2. กำหนดให้พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงาน 3. พนักงานเตรียมอาหารจะต้องสวมถุงมือยางทุกครั้ง 4. พนักงานที่ปฏิบัติงานในครัวและสัมผัสอาหารโดยตรง จะต้องล้างมือตามหลักสุขอนามัยทุกครั้งทั้งก่อนและหลังเตรียมอาหาร
5. ทำความสะอาดโต๊ะและเก้าอี้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากลูกค้าใช้บริการแล้วเสร็จ 6. เน้นย้ำให้พนักงานล้างมือถี่ขึ้นในระหว่างวัน และ 7. หากมีพนักงานป่วยด้วยอาการไข้ให้ลาหยุดและพบแพทย์   
2 กุมภาพันธ์ 2563

คิงมารีน ฟู้ดส์ ธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารทะเล อาหารแปรรูป หนึ่งในเครือ เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท ฮ๊กโกะ เกียวเร็น จำกัด ธุรกิจส่งออกวัตถุดิบอาหารทะเลจากญี่ปุ่น จัดกิจกรรม Taste of Scallop, Taste of Japan ชูวัตถุดิบยอดฮิต หอยโฮตาเตะพรีเมียมที่นำเข้าจากญี่ปุ่น โดย ‘กลุ่มอาหารทะเล’ นอกจากปลาแซลมอนที่เป็นวัตถุดิบที่ถูกนำเข้าเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือวัตถุดิบ หอยโฮตาเตะ ที่มีความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา คิงมารีน ฟู้ดส์ มีอัตราการนำเข้าวัตถุดิบหอยโฮตาเตะมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปี 2567 คาดว่าจะมีการนำเข้าที่มากขึ้นอีกกว่าเท่าตัวเช่นเดิม 

คุณธีรทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ และคุณณัฐฐศศิ บำเหน็จพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงมารีน ฟู้ดส์ จำกัด เผยว่า “ทางบริษัทให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบในทุกประเภท จากแหล่งนำเข้าวัตถุดิบที่ดีที่สุด คุณภาพของวัตถุดิบที่มีมาตรฐาน ราคาที่เหมาะสม และคำนึงถึงปัจจัยการผลิตในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเป็นสำคัญ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของทางบริษัท คือกลุ่มร้านอาหารในประเทศไทย สูงถึง70% รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจค้าปลีก อาทิ Department Store, Hypermarket, Supermarket และกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งล่าสุดก็มีการจัดส่งสินค้าเพื่อวางจำหน่ายที่ศูนย์ค้าส่ง Go Wholesale ทุกสาขาด้วย 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม B2B และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบหอยโฮตาเตะที่นำเข้าจากญี่ปุ่นให้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรม Taste of Scallop, Taste of Japan พบปะผู้ประกอบการในไทยกว่า 25 ราย โดยได้รับเกียรติจาก คุณฮิเดนาริ ยามายะ ประธานกรรมการบริษัท และคุณนาโอยะ ฟูจิคามิ ผู้จัดการ บริษัท ฮ๊กโกะ เกียวเร็น จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทส่งออกวัตถุดิบที่ญี่ปุ่นที่จะมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ทางด้านวัตถุดิบหอยโฮตาเตะที่มีมากกว่า 74 ปี พิเศษเฉพาะในงาน นอกจากนี้ยังมีการรังสรรค์ 7 เมนูพิเศษ เพื่อชูจุดเด่นของวัตถุดิบหลัก หอยโฮตาเตะ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาไอเดียใหม่ ๆ ในการรังสรรค์เมนูอาหารด้วย 

 

7 เมนูพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น ชูวัตถุดิบหลัก หอยโฮตาเตะ เทรนด์วัตถุดิบยอดฮิตนำเข้าจากญี่ปุ่น

โฮตาเตะที่ดีที่สุดต้องนำเข้าจากฮอกไกโดเท่านั้น เพราะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้คุณภาพของวัตถุดิบดี มีสีขาวนวลเป็นธรรมชาติ มีรสชาติหวาน เนื้อเฟิร์มแน่น สม่ำเสมอ ในส่วนของโรงงานจากญี่ปุ่นที่ทางบริษัทเลือก ยังมีมาตรฐาน มีกรรมวิธีในการรักษาความสดใหม่ ทำความสะอาดวัตถุดิบได้ดี มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยก่อนส่งออกแน่นอน อีกทั้งเมื่อนำมาประกอบเป็นเมนูอาหารยังมีรสชาติที่อร่อยด้วย

เริ่มที่ Hotate Yuzu Carpaccio ออเดิร์ฟเปิดหัวด้วยสลัดสไตล์ยุโรป ผสมกับหอยฮอกเกโดโฮตาเตะ ที่ร้านสไตล์ยุโรปในญี่ปุ่นนิยมเสิร์ฟกัน โดยเป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันอย่างดีจะให้ความรู้สึกที่เบา มีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ กระตุ้นต่อม เพิ่มความอยากอาหาร เลือกใช้ยูซุ เพิ่มมิติให้มีรสชาติเปรี้ยวหอมเป็นเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่น ท็อปด้วยอิคุระเกรดดี

Hotate Lobster & Kani Miso Yaki เมนูพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยประกอบด้วยคานิมิโซะ ล็อบสเตอร์มิโซะ เอามาปรับรสชาติให้เบาลงหน่อย ทานคู่กับโฮตาเตะท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน 

Hotate Duo Kushiyaki เมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Izakaya หรือ ร้านดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เมนูส่วนใหญ่จะเน้นสะดวก ทานคู่กับเครื่องดื่มของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน มี 2 รสชาติคือเมนูชื่อดังจากเกาะฟุคุโอกะ Hotate Mentaiko Kushiyaki หอยโฮตาเตะย่างแล้วท็อปด้วยซอสเมนไทโกะ เมนูที่ 2 คือ Hotate Mala (หม่าล่า) เมนูนี้ถูกประยุกต์จากเมนูที่คนไทยนิยม ทำเป็นซอสหม่าล่า ทานคู่กับโฮตาเตะ รสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี

Fried Truffle Cream Udon เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากเมนูอาหารฝรั่งจากร้านอาหารฝรั่งในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว, โอซาก้า, โกเบ โดยจะเลือกใช้เห็ดทรัฟเฟิล นำมาประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบ หอยโฮตาเตะ ทำเป็นเมนูโฮตาเตะคัตซึ กรอบนอก เนื้อด้านในหวานฉํ่า ทานคู่กับทรัฟเฟิลซอส 

Hotate & Ebi Tonkotsu Somen เมนูทงคตซึราเมง หรือ ราเมงซุปกระดูกหมู เดิมทีเป็นเมนูยอดนิยมจากเกาะคิวชู ซึ่งร้านทงคตซึราเมงที่คิวชูจึงนำเอาโฮตาเตะมาทำเป็นท็อปปิ้ง เลือกใส่เส้นโซเมงให้ทานง่าย ผสมกับความหวานอร่อยจากนํ้าซุปกระดูกหมูที่ถูกเคี่ยวมากกว่า 2 วัน ผสมกับความหอมหวานของหอยโฮตาเตะ และกุ้งอากะเอบิ 

Uni Hotate Yaki with Uni sauce อุนิซอส ที่ทำให้นึกถึงเกาะโอกินาว่า ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ใครที่เคยไปจะเห็นร้านอาหารหลาย ๆ ร้าน นำอุนิซอสมาผสม หรือกระทั่งร้านปิ้งย่างในตลาดสด เอาอุนิซอสมาราดใส่ กุ้ง หอย แล้วนำเสิร์ฟ เมนูนี้จึงเอาอุนิทำเป็นซอส ทานคู่กับหอยโฮตาเตะย่าง ท็อปด้วยอุนิอีกทีด้านบน

Hotate Mentaiko & Kani Miso Don วัตถุดิบเลื่องชื่อแห่งเกาะคิวชูที่คนญี่ปุ่นคิดถึงเป็นอับดับแรก ๆ คือ เมนไทโกะ หรือ ไข่ปลาค็อดปรุงรส ผสมกับรสชาติคานิมิโซะและมีข้าวผัดอยู่ด้านล่างลองคลุกรวมกันทั้งหมด จะได้รสชาติความอร่อยแบบไม่ซํ้าใคร

“กิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้สามารถชูจุดเด่นของวัตถุดิบหอยโฮตาเตะ ขยายการรับรู้ในวงกว้าง อีกทั้งยังสามารถการันตีคุณภาพของวัตถุดิบที่ทางบริษัทตั้งใจคัดสรรและใส่ใจในทุกรายละเอียด มั่นใจในคุณภาพของวัตถุดิบได้อย่างแน่นอน” คุณธีรทัศน์ และคุณณัฐฐศศิ กล่าวทิ้งท้าย

28 มกราคม 2563
บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ZEN ขยายพอร์ตธุรกิจร้านอาหาร มองเทรนด์อาหารจีนในไทยขยายตัวต่อเนื่อง รุกซื้อสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์  เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “ดินส์” (Din’s) อาหารจีนจานด่วน (สไตล์ Neo Taiwanese)  ประเดิมเปิดสาขาแรกในศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์ ชูจุดเด่นรสชาติอาหาร คุณภาพวัตถุดิบและราคาที่เข้าถึงลูกค้าทุกระดับ ปลื้มลูกค้าตอบรับดี ตั้งเป้าหมายเปิด 30 สาขาภายใน 3 ปี สร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ได้วางนโยบายขยายธุรกิจร้านอาหารให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น จากปัจจุบันเปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 14 แบรนด์ครอบคลุมอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ไทยและเวียดนาม โดยประเมินภาพรวมตลาดอาหารจีนจานด่วนในประเทศไทยในปัจจุบัน มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2 – 3 หมื่นล้านบาทและคาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจึงเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ “ดินส์” (Din’s) อาหารจีนจานด่วน (สไตล์ Neo Taiwanese) สาขาแรกที่บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์  

ดินส์ (Din’s) เป็นร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นด้านรสชาติและราคาที่ย่อมเยา ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการกว่า 10 สาขาในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงตัดสินใจซื้อสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์กับทางดินส์ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และยังได้รับสิทธิ์เปิดสาขาในกลุ่มประเทศ CLMV หรือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาและเวียดนาม ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการเติบโตของแบรนด์ดินส์ในอนาคต

ทั้งนี้ ประเมินว่าอาหารจีนมีรสชาติเป็นที่ชื่นชอบและถูกปากคนไทยส่วนใหญ่ ประกอบกับใช้เวลารับประทานไม่นานและราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยหลังจากเปิดให้บริการ ดินส์ สาขาแรกเป็นที่เรียบร้อย วางเป้าหมายขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 3 ปีจะเปิดร้านดินส์ 30 สาขา เน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีประชากรหนาแน่น เช่น ภายในศูนย์การค้า ย่านใจกลางเมืองและชุมชน ฯลฯ คาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 300 ล้านบาท 

“เรามองว่า ดินส์ เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกระดับ จึงมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ภายในช่วง 3 ปีนับจากนี้ และมีแผนเตรียมความพร้อมด้านทีมงานเพื่อขยายสาขาด้วยโมเดลแฟรนไชส์ในอนาคต คาดว่าจะได้รับความสนใจที่ดีจากผู้ที่ต้องการลงทุนเปิดร้านอาหาร” นายบุญยง กล่าว   

นางสาวสุจันท์ภา พลางกูร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มแบรนด์ปิ้งย่างและคาเฟ่ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN กล่าวว่า ได้เปิดบริการร้าน ดินส์ สาขาแรกในศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองที่มีศักยภาพ อยู่ใกล้แหล่งทำงานและสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT  (สถานีสามย่าน) เพื่อนำเสนอเมนูอาหารจีนจานด่วน ที่ได้กลิ่นอายความเป็นจีนดั้งเดิมผสมผสานกับแรงบันดาลใจจากร้านอาหารในญี่ปุ่นในราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย โดยมีอาหารให้เลือกหลากหลายกว่า 50 เมนู ทั้งติ่มซำ อาหารทานเล่น อาหารจานหลักและเช็ตเมนู เพื่อตอบสนองลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่มที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ดังกล่าว

เมนูอาหารแนะนำที่เป็นจุดเด่นของร้านคือ ‘THE FLYING XIAO LONG BAO’ หรือเสี่ยวหลงเปาติดปีก
ที่พัฒนาสูตรโดยเชฟติ่มซำชั้นนำและรับประทานได้เฉพาะที่ ดินส์ เท่านั้น โดยเมนูดังกล่าวได้แนวคิดจากคนญี่ปุ่น
ที่ชื่นชอบการรับประทานเกี๊ยวซ่า จึงได้นำมาพัฒนาแป้งสำหรับจัดวางเสี่ยวหลงเปาที่มีรูปลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใครคล้ายกับเสี่ยวหลงเปาติดปีก เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างและสร้างเอกลักษณ์ให้ ดินส์ เป็นร้านอาหารจีนจานด่วน ที่มีเมนูหลากหลายในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย สามารถมาอิ่มอร่อยได้ทุกวัน

ขณะที่รูปแบบร้านเน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกลิ่นอายความเป็นตะวันออก ให้ความรู้สึกทันสมัย เรียบง่าย แต่มีชีวิตชีวา เหมาะกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนมารับประทานอาหารร่วมกัน และยังได้ออกแบบพื้นที่ส่วนหนึ่งภายในร้านเป็นครัวเปิด เพื่อให้ลูกค้าเห็นบรรยากาศการปรุงอาหารของเชฟแบบใกล้ชิดและมั่นใจว่าได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพและปรุงสดใหม่

“หลังจากเปิดบริการ ดินส์ สาขาแรกกว่า 1 เดือนถือว่ามีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มีลูกค้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งวันและสามารถทำยอดขายต่อวันได้สูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับรสชาติอาหาร การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจแก่ผู้บริโภคกลับมารับประทานอาหารซ้ำ และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ดินส์ วางแผนจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งเซ็ตเมนูไซส์ R 2 เซ็ต รับสิทธิ์ซื้อ 4 เมนู Appetizer ในราคาลด 25% สามารถติดตามรายละเอียดได้ใน Facebook Fan page Din’s Thailand” นางสาวสุจันท์ภา กล่าว
24 ธันวาคม 2562
นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นกรุ๊ป มอบรางวัลรถยนต์ Toyota Yaris ATIV แก่ นางศุจินทรา เชื้อเวียง พร้อมมอบรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ให้แก่ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากแคมเปญ ‘ตำมั่วฉลอง 30 ปี แจกใหญ่ทุกแบรนด์ในเครือส่งท้ายปี’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเฉลิมฉลองร้านอาหารตำมั่ว ตำนานความอร่อย ในโอกาสครบรอบ 30 ปี พร้อมคืนกำไรแก่ลูกค้าและกระตุ้นยอดขายร้านอาหารในเครือตำมั่ว ได้แก่ ตำมั่ว, ลาวญวน, แจ่วฮ้อน, เฝอ,   เดอ ตำมั่ว และเขียง
28 พฤศจิกายน 2562
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารน้องใหม่ “FOO Flavor” (ฟู เฟเวอร์) อาหารเอเชี่ยนเซอร์ไพรส์ ที่แปลก แต่คุ้น คุ้นแต่แปลก ให้ทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อย โดยสาขาแรกเปิดให้บริการ ณ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ชั้น 4

FOO Flavor (ฟู เฟเวอร์) “FOO” คือ การอธิบายความหมายเชิงอารมณ์ความรู้สึกถึงความเปี่ยมล้นทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ “Flavor” คือ การรับรู้รสอาหารและเครื่องดื่มที่แสดงออกถึงลักษณะเฉพาะตัวและส่วนผสมของอาหารนั้นๆ สามารถรับรู้จากประสาทสัมผัส รูป รส กลิ่น “FOO Flavor” หมายถึง อาหารที่ “FOO” ไปด้วยรสชาติ วัตถุดิบ และเรื่องราวที่หลากหลาย ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของอาหารเอเซีย โดยร้าน FOO Flavor นำเสนออาหารเอเชี่ยนเซอร์ไพรส์ ที่แปลกแต่คุ้น คุ้นแต่แปลกนำเอาอาหารหรือวัตุดิบต่างๆ หลากหลายชนิด ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี มาผสมผสานกันเป็นเมนูใหม่ ให้รูปแบบที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นและวัตถุดิบนั้นๆ ซึ่งฟู เฟเวอร์ ตั้งใจให้อาหารเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางให้แก่ผู้ที่เข้ามารับประทานอาหารที่ร้านผ่านรสชาติ และวัตถุดิบ รวมไปถึงบรรยากาศของภายในร้านอีกด้วย

คุณสุจันท์ภา พลางกูร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มแบรนด์ปิ้งย่างและคาเฟ่ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “สำหรับ FOO Flavor เราใช้ประสบการณ์ที่เราบริหาร   แบรนด์ On the Table, Tokyo Café มากว่า 10 ปี มองเห็นจุดที่สามารถพัฒนาแบรนด์ใหม่ และสร้างความแตกต่าง เราจึงวาง Brand Personality ของ FOO Flavor ให้เป็นสไตล์ผู้ชายกวนๆ ทันสมัย ที่ชอบเที่ยวชอบกิน ชอบเล่าเรื่องของอาหารและการท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของเมนูที่หลากหลายให้ได้ลิ้มลอง ให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าแนว Café Hopper, Foodie Trendy โดย Mood & Tone ของร้าน FOO Flavor นำสีสันต่างๆ รวมเข้าด้วยกันเพื่อแทนถึงรสชาติของอาหาร การออกแบบของร้าน FOO Flavor ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะยุกต์ Post modern ใช้ลายเส้นของเลขาคณิต ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นเอเซีย อย่างเช่น ลายหวาย ลายตาราง ลายเครื่องสาย เพื่อสร้างความทันสมัยและให้เข้ากับคอนเซ็ปท์ของร้าน FOO Flavor แปลกแต่คุ้นคุ้นแต่แปลก” 

ฟู เฟเวอร์ อาหารราคาเริ่มต้นที่ 65 – 300 บาท โดยมีเมนูที่น่าสนใจหลากหลายเมนูให้ได้ลิ้มลองกัน อาทิ แซลมอนย่างพล่าส้มโอ แซลมอนย่างกรอบนอกนุ่มใน ทานกับพล่าส้มโอสูตรคุณยาย เผ็ดหวานกลมกล่อม, สลัดหลวงพระบาง อารยธรรมแบบฝรั่งมาอยู่ในจานผักสมุนไพรพื้นบ้านนานาชนิด ผักแพว สะระแหน่ ต้นห้อม ผักชี ทานคู่กับน้ำสลัดครีม รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย, ข้าวผัดเกาหลีพอร์คชอปคั่วพริกเกลือ ข้าวผัดเกาหลีกับพอร์คชอปทอด คั่วพริกกระเทียม จัดจ้านในย่านนี้ จะเกาหลีหรือจีนก็อร่อยเข้ากัน, หมูโชยุไข่พะโล้ หมูสามชั้นตุ๋นจนนุ่ม ละลายในปาก แกล้มกับผักกาดดองและไข่พะโล้, ฟูเฟเวอร์ ซันไลซ์ เปรี้ยวเสาวรส หวานกระเจี๊ยบโซดา

พิเศษพบกับโปรโมชั่นฉลองเปิดร้าน เพียงสแกน QR Code ทำแบบสอบสอบถาม รับสิทธิ์แลกซื้อเบคอนคั่วพริกเกลือ ในราคาเพียง 90 บาท (จากปกติ 140 บาท) ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 – 30 เมษายน 2563, Check in รับฟรีที่รองแก้วแบรนด์ FOO Flavor ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 – 15 ธันวาคม 2562 และโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : foo flavor

ร้าน FOO Flavor พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ ที่ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ชั้น 4 และเอ็มควอเทียร์ ชั้น 7 ในเดือนธันวาคม รายละเอียดได้ที่  Facebook : foo flavor