TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป Q4 ปี 66 รายได้รวม 1,062 ล้านบาท อัพไซด์ค้าปลีกโต 72% ดันยอดรวมปี 66 แตะ 3,945 ล้านบาท

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

6 มีนาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งสายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ ชวนแวะมาเช็คอิน ส่องผลงานศิลปะสุดคิ้วท์
28 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
ปิ้งย่างอินเลิฟ! AKA สร้างกระแสช่วงวาเลนไทน์ ‘เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่รัก’ มอบ ‘ช่อหมูสื่อรัก’ กระชับมิตรแบรนด์คู่แข่งในตลาด แถมถูกจริตคู่รักนักปิ้ง สร้าง engagement ร่วมกันหวานฉ่ำ
12 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย" ท้าดวลนักกินจุทั่วไทย ร่วมชิงเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
18 มกราคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น เรสเตอร์รอง ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมความมงคลด้วยมื้ออาหารคุณภาพกับ 5 เมนูมังกรมงคล พร้อมเช็คดวงปัง ๆ ไปกับ หมอต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง
29 ธันวาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม
17 สิงหาคม 2563
นายบุญยง ตันสกุล (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสาวสุจันท์ภา พลางกูร (ขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์ญี่ปุ่น และนางสาวพัชนีวรรณ ตันประวัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN GROUP จัดแคมเปญใหญ่ ‘อากะ ฉลองครบรอบ 13 ปี มอบประสบการณ์มื้อปิ้งย่างสุดพิเศษคืนกำไรแก่ลูกค้าเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการที่อากะมาตลอด 13 ปี พบกับโปรโมชั่น Meat Lover Buffet ในราคาเพียง 313+ บาท (จากปกติ 339+ บาท) ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2563 - 15 พฤศจิกายน 2563 ที่ ร้านอากะ ทุกสาขา พิเศษกับกิจกรรมอากะ ยากินิกุเดย์ 2020” ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2563 ณ ร้านอากะ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าบัตรสมาชิกอากะที่มียอดรับประทานอาหารสูงสุด 13 รางวัล (รางวัลละ 2 สิทธิ์) และจำนวนครั้งที่มารับประทานอาหารสูงสุด 13 รางวัล (รางวัลละ 2 สิทธิ์) รวมทั้งสิ้น 26 รางวัล พร้อมรับสิทธิ์ทานมื้อปิ้งย่างแบบพิเศษ พร้อมเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงแคมเปญอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อตอบแทนลูกค้า
6 สิงหาคม 2563
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN ประเมินแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ เร่งสปีดเต็มสูบตั้งเป้าหมายกลับมาสร้างผลกำไรที่ดีตั้งแต่ครึ่งปีหลัง ชี้ดีมานด์ธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวเร็ว ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คาดเป็นจุดต่ำสุดหลังปริมาณลูกค้าทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในช่วงกว่า 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ หลังจากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ของโรค COVID-19 ได้ดี ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจในการ
ใช้ชีวิตนอกบ้าน ขณะที่ร้านอาหารตามสถานที่ต่างๆ สามารถเปิดให้บริการนั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ ภายใต้การให้บริการแบบ New Normal ที่ต้องเน้นมาตรการด้านความสะอาดอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงวางเป้าหมายนำบริษัทฯ กลับมาสร้างผลกำไรที่ดีนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป

ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 จะปรับตัวดีขึ้น หลังจากลูกค้าทยอยใช้บริการร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ของเซ็น กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ปริมาณลูกค้าของร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ จะเพิ่มขึ้นกลับมาใกล้เคียงช่วงปกติก่อนที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เน้นเพิ่มขีดสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น จากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย การปรับพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ร้านอาหารโดยมุ่งเน้น 7 แบรนด์หลักที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและได้รับผลกระทบไม่มากในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย การกระจายสัดส่วนรายได้จากช่องทางเดลิเวอรี่ รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดำเนินการไปแล้วเพื่อรับกับเป้าหมายที่ต้องการกลับมาสร้างการเติบโตที่ดี

“เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และหากรัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค รวมถึงเริ่มทยอยเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติบางส่วน สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้บ้างภายใต้มาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังอย่างรัดกุม ก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังกลับมามีกำไรได้ตามเป้าหมาย” นายบุญยง กล่าว
15 กรกฎาคม 2563
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN เปิดเกมรุกครึ่งปีหลังรับธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัว หลังภาครัฐคลายมาตรการล็อกดาวน์ หนุนบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้น ผู้บริโภคกลับเข้าใช้บริการร้านอาหารเฉลี่ย 80-85% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ มั่นใจพร้อมเทิร์นอะราวด์ เร่งสปีดเปิด เขียงร้านอาหารไทยตามสั่งแนวสตรีทฟู้ด คาดสิ้นปีนี้มีร้านเปิดบริการแตะ 100 สาขา เน้นขยายสาขารูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก ย้ำมาตรการ 6S ด้านสุขอนามัยภายในร้านอย่างเข้มงวด พร้อมรุก  เดลิเวอรี่อย่างต่อเนื่องเพิ่มทุกแพลตฟอร์มตั้งเป้าสัดส่วนรายได้กว่า 10% ของยอดขายรวมปีนี้  

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีความมั่นใจที่จะนำบริษัทฯ กลับมาสร้างผลกำไรที่ดีอีกครั้ง หลังจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจากมาตรการเคอร์ฟิวและการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม และคาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของการดำเนินงานในปีนี้ เนื่องจากภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่ทยอยกลับมาเปิดให้บริการมากขึ้น

ขณะที่ร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ปในพอร์ตโฟลิโอที่มีทั้งสิ้นกว่า 10 แบรนด์ในปัจจุบัน รองรับลูกค้าหลากหลายเซ็กเมนต์ อาทิ แบรนด์ AKA, ZEN, On the Table ฯลฯ  พบว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ทั้งในและนอกศูนย์การค้า มีลูกค้ากลับมาใช้บริการนั่งทานภายในร้านเฉลี่ย 80-85% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ถือว่าฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

“โดยภาพรวมร้านอาหารทุกแบรนด์ของเราถือว่าฟื้นตัวได้เร็วแบบ V Shape เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกับแบรนด์มากขึ้น สามารถเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศและใช้ชีวิตนอกบ้านได้ หลังจากรัฐบาลทยอยผ่อนคลายให้ธุรกิจต่างๆ ทยอยเปิดบริการ และไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศอย่างต่อเนื่องหลายวัน จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะกลับมาทำผลการดำเนินงานได้ดีในครึ่งปีหลัง” นายบุญยง กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเซ็นกรุ๊ป กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่เพื่อสร้างบริษัทฯ ให้กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมและพร้อมผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ 1.การปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการต้นทุน 2. ปรับร้านอาหารบางสาขาเป็นรูปแบบ Virtual  Kitchen หรือครัวกลางที่สามารถรองรับการปรุงอาหารแบรนด์อื่นในเครือเซ็นกรุ๊ปได้ เช่น ร้านลาวญวณหรือตำมั่วบางสาขาที่สามารถปรุงอาหารแบรนด์เขียงได้ เพื่อเพิ่มยอดขายในแต่ละสาขา

3. ขยายสาขาร้านอาหารไทยตามสั่งแบรนด์ ‘เขียง’ เน้นโมเดลแฟรนไชส์ ซึ่งแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา และยังเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร โดยมีโอกาสคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 2-3 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาเปิดสาขาเขียงเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมดกว่า 70 แห่ง และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยายเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 สาขา ซึ่งจะเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยตามสั่งที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย

และ 4. เพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางเดลิเวอรี่อย่างต่อเนื่องผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ได้แก่ แกร็บฟู้ด ไลน์แมน เก็ท ฟู้ดแพนด้า สั่งอาหารออนไลน์ร้านในเครือของบริษัทผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1376 Delivery  และพัฒนาเมนูใหม่ภายใต้ชื่อ Chicken Z (ชิกเก้นซี) ไก่ทอดสูตรลับฉบับเซ็นที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้บริการลูกค้าสั่งซื้อแบบเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ ปัจจุบันมี 12 สาขาที่ให้บริการแบบเดลิเวอรี่ได้ คาดว่าสัดส่วนรายได้เดลิเวอรี่ของบริษัทฯ จะเพิ่มเป็นประมาณ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 10% จากยอดขายรวมในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุดในร้านอาหารทุกสาขาอย่างเข้มงวด โดยวางมาตรการ 6S เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ได้แก่ 1.Supply Chain Control ควบคุมแหล่งที่มาของวัตถุดิบและการจัดส่งตามมาตรฐาน GMP  2.System มีทีมตรวจสอบการปฎิบัติงานเพื่อควบคุมมาตรฐานการปรุงอาหารที่สุกสะอาด ปลอดภัย เช่น พนักงานเข้มงวดในการจัดเก็บอาหาร และอุปกรณ์ทำอาหารให้ถูกสุขอนามัย เป็นต้น 3. Staff Screening พนักงานต้องผ่านการคัดกรองก่อนเข้างานและสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันระหว่างการทำงาน 4. Social Distancing จัดผังที่นั่งในร้านมีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตรและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส สแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล 5. Separate Equipment อุปกรณ์ทานอาหารของลูกค้าต้องใช้แยกกัน และได้รับการฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน 6. Safe Delivery เมนูที่ลูกค้าซื้อกลับบ้านหรือเดลิเวอรี่ ต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของร้าน
 
24 มิถุนายน 2563
Sushi Cyu & Carnival Yakiniku (ซูชิชู แอนด์ คาร์นิวัล ยากินิคุ) ร้านซูชิและปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยม ภายใต้บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดสาขาใหม่ ณ ชั้น 7 โซนฮีลิกซ์ สกาย ไดนิ่ง ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ พร้อมรังสรรค์ความอร่อย คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพสูงส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ผ่านการปรุงด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียดจากเซฟมากประสบการณ์ จัดเสิร์ฟภายใต้บรรยากาศเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พิเศษกับโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านลด 15%(เฉพาะโซนยากินิคุ)  ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2563

Sushi Cyu & Carnival Yakiniku (ซูชิชู แอนด์ คาร์นิวัล ยากินิคุ) ภายใต้บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นร้านซูชิและปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยม โดยคำว่า “CYU” มาจากชื่อผู้ก่อตั้งชาวญี่ปุ่น  มีความหมายว่า “ความจงรักภักดิ์ดี ความจริงใจ” และยังพ้องเสียงกับคำในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่าตรงกลาง สื่อความหมายว่า “เราจะซื่อสัตย์กับรสชาติที่แท้จริงของอาหารญี่ปุ่น เพื่อเข้าไปอยู่ในหัวใจของลูกค้า” ซึ่งโลโก้ยังได้รับการออกแบบจากนักเขียนพู่กันญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ภายในร้านยังใช้รูปเชือกที่มีลักษณะผูกไขว้กันอย่างสวยงาม ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมใช้ผูกของขวัญสำหรับมอบให้กับคนสำคัญในโอกาสพิเศษ ดังนั้นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารทุกคำจึงถูกคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพสูงและส่งตรงจากญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกคำของอาหารเป็นเสมือนของขวัญชิ้นพิเศษที่มอบให้กับลูกค้าทุกคน

ปัจจุบัน Sushi Cyu & Carnival Yakiniku มี 4 สาขา ได้แก่ สาขาอาคาร All Seasons Place ถนนวิทยุ, สาขา Eight Thonglor, สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, และสาขาล่าสุดศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์  ซึ่งทุกสาขาจะถูกออกแบบและตกแต่ง ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยสาขาศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์  ซึ่งเป็นสาขาล่าสุดของ “Sushi Cyu & Carnival Yakiniku” ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น เน้น Concept Japanese Contemporary ในร้านจะแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนโอมากาเสะ เน้นคุมโทนด้วยสีขาวและไม้สีอ่อน ทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัด ให้ความรู้สึกเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่น โดยที่นั่งจะถูกออกแบบให้เป็นแบบเคาน์เตอร์อยู่ด้านหน้าเชฟ  ซึ่งลูกค้าสามารถนั่งมองเชฟทำซูชิสดๆ ที่ได้รับการเสิร์ฟจากมือเชฟได้เลย นอกจากเชฟคนไทยที่มีความเชี่ยวชาญในอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ทุกสาขาจะมีเชฟที่มากประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อช่วยกันรังสรรทุกเมนูด้วยความใส่ใจ จัดเสิร์ฟให้ลูกค้าเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ในการทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง  

สำหรับเมนูไฮไลน์อยู่ที่คอร์ส “โอมากาเสะ” ซึ่งซูชิแต่ละชิ้น จะรังสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดจากเชฟผู้มากประสบการณ์ และจะจัดเสิร์ฟซูชิแต่ละชิ้นทันทีที่ปรุงเสร็จ โดยเรียงจากซูชิที่มีความมันน้อยไปหามาก เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความสดใหม่ที่สุด และเข้าถึงการทานซูชิในแบบฉบับของญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง โดยคอร์สโอมากาเสะ แบบ 10 คำ ราคา 2,200 บาท, คอร์ส 14 คำ ราคา 3,300 บาท ซึ่งเป็นราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบที่นำเข้าจากญี่ปุ่นสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง ที่พลาดไม่ได้เลย  คอร์สตามฤดูกาลที่รังสรรโดยเชฟญี่ปุ่นที่จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตากฤดูกาลของญีปุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์อันพิเศษสุดเหมือนบินไปทานที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ส่วนผู้ชอบทานเนื้อต้องไม่พลาดกับ โซนยากินิคุ หรือปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่คัดเฉพาะเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมและมีใบรับรองแหล่งที่มาเท่านั้น  เนื้อ Omi เป็นเนื้อ Wagyu ดำที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงดูด้วยสิ่งที่แวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์และใกล้ทะเลสาบบิวะ เป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานที่สุดในญี่ปุ่นกว่า 400 ปี ที่ ทั้งในอดีตเป็นอาหารที่เสริฟให้โชกุนอย่างสม่ำเสมอ โดยเชฟจะคัดเฉพาะส่วนของเนื้อที่เหมาะกับการปิ้งย่างมาจัดเสิร์ฟ เช่น เนื้อสันใน เนื้อสันคอพิเศษ และเนื้อส่วนกลางสะโพก เป็นต้น หากลูกค้าชอบลิ้มลองความหลากหลาย แนะนำเป็น Omi Omakase Mori ที่รวบรวมอร่อยไว้ในจาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้รสชาติที่หอมหวาน นุ่มอร่อย และละลายในปากอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เราจะมีเนื้อ Miyazaki และเนื้อไทย   เฟรนช์ที่คัดสรรมาให้เลือกหลากหลาย แน่นอนว่าเราคัดแต่เกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น ยังมีเมนูชาบู และสุกี้ยากี้ที่เสิร์ฟด้วยเนื้อไทยเฟรนช์/หมู ไว้เป็นเมนูทางเลือก  รวมทั้งเมนูทานเล่น เช่น สลัดผักย่าง เต้าหู้เย็นเมนไทโกะ เทมปุระ และสาเกที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นให้ลูกค้าได้จิบเพลินๆ คู่กับการรับประทานอาหารอีกด้วย
8 มิถุนายน 2563
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้นำธุรกิจร้านอาหาร เตรียมความพร้อมร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ป ให้กลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมนำเมนูปลาดิบกลับมาให้บริการลูกค้าอีกครั้งในร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ที่รัฐบาลได้มีมาตราการผ่อนคลายระยะ 3 ส่งผลดีทำให้แบรนด์ร้านอาหารในเครือฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า “ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น พร้อมนำเมนูปลาดิบกลับมาให้บริการลูกค้า โดยปลาแซลมอนสดที่จำหน่ายภายในร้านอาหารในเครือนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสภาอุตสาหกรรมนอร์เวย์ว่าสามารถรับประทานแบบดิบได้ เช่น เมนูซูชิ ซาซิมิที่ปราศจากการแช่แข็ง เนื่องจากผ่านกรรมวิธีการเลี้ยงแบบพิเศษ และควบคุมการจัดส่งจากต้นทางอย่างเข้มงวดทุกกระบวนการ จึงมั่นใจได้ว่าจะปราศจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่และพยาธิปนเปื้อน

“เซ็นกรุ๊ป” ทำงานร่วมกับสมาคมการค้าอาหารทะเล ประเทศนอร์เวย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยไร้ไวรัสและเชื้อโรคต่างๆ ทั้งนี้ การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนจากนอร์เวย์จะต้องปฏิบัติตามกฏข้อบังคับของสหภาพยุโรปอย่างเข้มงวดเพื่อรองรับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นอาหารที่มีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยในแต่ละปีประเทศนอร์เวย์ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามสารพิษตกค้างในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด และมีสถาบันวิจัยทางทะเลเป็นผู้ดำเนินการวิจัยในนามของหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารของนอร์เวย์

ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น นำเมนูปลาดิบกลับมาจำหน่ายให้ลูกค้าครบทุกสาขาภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ แบรนด์ร้านอาหารในเครือฯ พร้อมกลับมาให้บริการลูกค้าแบบเต็มรูปแบบ เราให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า โดยคาดว่าจะมีผลทำให้ยอดขายของร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากเดิมเมนูอาหารประเภทปลาดิบคิดรายได้เป็นอัตราส่วนกว่า 50% ของยอดขายรวมทั้งหมด และในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทางร้านได้งดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากมาตราการเรื่องการรับประทานอาหารปรุงสุก

ล่าสุดหลังจากสถานการณ์ที่รัฐบาลได้มีมาตราการผ่อนคลายระยะ 3 ให้ภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในการกลับมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจ ทำให้มียอดขายรวมของร้านอาหารในเครือเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี รวมถึงหากมีมาตราการผ่อนคลายเพิ่มเติม สถานการณ์จะยิ่งดีขึ้น และจะทำให้เพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารในเครือกลับมาดียิ่งขึ้นอีก” นายบุญยงกล่าว
25 พฤษภาคม 2563
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง แก้เกม COVID-19 เจรจาลดค่าเช่า เสริมสภาพคล่อง พร้อมบุกขยายช่องทางเดลิเวอรี่หลังเห็นโอกาสจากยอดขายที่พุ่งขึ้นในช่วงปิดสาขาในห้างชั่วคราว ผุดเมนูใหม่ ‘Chicken ZEN’ ไก่ทอดสูตรลับฉบับเซ็น เตรียมเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ผ่านสาขาแบบ Virtual Restaurant หรือร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านแต่จะปรากฎเมนูบนแอพพลิเคชั่นฟู้ดเดลิเวอรี่ร้านอาหารในเครือเท่านั้น เดือนแรกเปิด 22 สาขา รองรับออเดอร์แบบเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ และสิ้นปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 60 สาขา ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากเมนูใหม่ 50 – 70 ล้านบาท

นายบุญยง ตันสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า จากการสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง เพื่อเร่งผลักดันผลการดำเนินงานกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมีทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ ซึ่งแผนระยะสั้นที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว คือ เจรจาค่าเช่า ตามมาตราการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) รวมถึงการวางมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน

ส่วนของแผนระยะกลางและระยะยาว มุ่งเน้นการขยายแฟรนไซส์ร้านอาหารตามสั่งภายใต้แบรนด์ ‘เขียง’ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแทบไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขายในช่วงโรคระบาดที่ผ่านมา คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถเปิดเขียงในรูปแบบแฟรนไชส์ไม่ต่ำกว่า 75 สาขา ซึ่งช่วง 4 เดือนแรกปีนี้เปิดไปแล้ว 20  สาขา

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZEN กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้พัฒนาอาหารเมนูใหม่ภายใต้ชื่อ ‘Chicken ZEN’ (ชิกเก้นเซ็น) ไก่ทอดสูตรลับฉบับเซ็น ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเอง เตรียมวางจำหน่ายเฉพาะสาขา Virtual Restaurant หรือร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านแต่จะปรากฎเมนูบนแอพพลิเคชั่นฟู้ดเดลิเวอรี่เท่านั้นที่พัฒนาขึ้นในรูปแบบใหม่ของแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ในกลุ่ม ZEN เพื่อรองรับออเดอร์แบบเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ ตั้งเป้าขยาย Virtual Restaurant  22 สาขาภายในเดือนแรก และคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดครบ 60 สาขา หลังจากในช่วงที่มีการปิดให้บริการร้านอาหารภายในศูนย์การค้าเป็นการชั่วคราว ปรากฏว่ายอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

สำหรับเมนูใหม่ Chicken ZEN ไก่ทอดสูตรลับฉบับเซ็น จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้น ซึ่งจะมีไก่ทอดให้เลือกหลายรสชาติ โดยสามารถทดลองชิมไก่ทอด Chicken ZEN  ฟรี 500 ท่านแรก เพียงลงทะเบียนผ่านช่องทาง Line@ : @zengroupdelivery ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง  27 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้คาดว่าถึงสิ้นปีนี้เมนู Chicken ZEN จะสร้างยอดขายแก่บริษัทฯ ประมาณ 50 - 70 ล้านบาท

“ยอดขายช่องทางเดลิเวอรี่และแพลทฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ เช่น ฟู้ดแพนด้า แกร็บฟู้ด ไลน์แมน เก็ท และ 1376 Delivery ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คาดว่าปีนี้สัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์จะเพิ่มเป็น 15-20% ของยอดขายรวม จากเดิมมีสัดส่วน 4-5% ของยอดขายรวม และเชื่อว่าหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายธุรกิจร้านอาหารจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากหลังรัฐบาลออกมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ให้ภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ได้ทยอยเปิดให้บริการเมื่อ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า ลูกค้าเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการภายในร้านอาหารแล้ว ถือว่าสัญญาณที่ดีและเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้” นายบุญยง กล่าว