TH
ข่าวสารล่าสุด
Zen Group จับมือ KoLao ขยายอาณาจักรร้านอาหารสู่ประเทศลาว เตรียมเปิด 4 แบรนด์ดังที่ Mega Mall เวียงจันทน์
เซ็น กรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ โดยล่าสุดจับมือกับ KoLao เพื่อเสริมแกร่งการเติบโตใน สปป.ลาว ผ่านการนำ 4 แบรนด์ร้านอาหารคุณภาพสู่ Mega Mall เวียงจันทน์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายแฟรนไชส์ในภูมิภาค พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความต้องการสูงในเรื่องรสชาติและคุณภาพอาหาร

เซ็น กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจร้านอาหารชั้นนำของประเทศไทยที่มีพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมตั้งแต่ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมจนถึงร้านอาหารแนว Casual Dining นำโดย คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป Mr.Jakkapong Wangtaphun ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Grandview Property ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Kolao Group จัดพิธีลงนามสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์กับ บริษัท KoLao ผู้นำธุรกิจใน สปป.ลาว

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาที่ Kolao Tower เวียนเทียน สปป.ลาว เพื่อขยาย 4 แบรนด์ยอดนิยมเข้าสู่ตลาดลาว ได้แก่ ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นที่คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพเยี่ยมและปรุงอย่างพิถีพิถัน, On the Table โตเกียวคาเฟ่ที่นำเสนออาหารนานาชาติฟิวชัน ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์, ลาวญวน ร้านอาหารสไตล์อินโดไชน่าที่ผสานรสชาติหลากหลายจากภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และ เขียง ร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ดรสจัดจ้านหอมกลิ่นกระทะ ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนความเชี่ยวชาญและมาตรฐานคุณภาพของเซ็น กรุ๊ป ในการนำแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจแก่ผู้บริโภคในลาวโดยทั้ง 4 แบรนด์; ZEN, On the Table, ลาวญวน และ เขียง เตรียมเปิดสาขาแรกที่ Mega Mall เวียงจันทน์ในไตรมาส 4 ปี 2025 ก่อนเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติมในช่วงปี 2026–2027 รวม ZEN 3 สาขา, On the Table 3 สาขา, เขียง 10 สาขา และ ลาวญวน 3 สาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและต่อยอดการเติบโตของตลาดอาหารใน สปป.ลาวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เซ็น กรุ๊ป เริ่มบุกตลาดลาวครั้งแรกในปี 2013 ด้วยการเปิดร้าน “ตำมั่ว” สาขาเวียงจันทน์ ณ โรงแรมซีซั่น ริเวอร์ไซด์ ร่วมกับนักธุรกิจชั้นนำชาวลาว ก่อนต่อยอดสู่ความร่วมมือกับ KoLao และลงนามสัญญาแฟรนไชส์ร้าน “เขียง” รวม 10 สาขา ซึ่งได้ทยอยเปิดให้บริการแล้ว อาทิ สาขาหนองบอน (16 กันยายน 2024), สาขาสีวิไล (29 พฤศจิกายน 2024), สาขาโพนสีนวน (10 ธันวาคม 2024) และสาขาเมืองน้อย (25 กุมภาพันธ์ 2025) พร้อมอีก 6 สาขาที่เตรียมเปิดภายในไตรมาส 1 ปี 2026
 
ศักยภาพตลาดแฟรนไชส์ในลาว
ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มจากประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมสูงในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน อันเป็นผลจากวัฒนธรรมการบริโภคที่ใกล้เคียงกัน ความนิยมในรสชาติอาหารไทย และภาพลักษณ์ของอาหารไทยที่มีความพิถีพิถัน สดใหม่ และหลากหลายรสชาติ ทำให้ผู้บริโภคในประเทศอย่าง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ต่างให้ความสนใจและเปิดรับแบรนด์อาหารจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้แนวโน้มการลงทุนแฟรนไชส์ในลาวมีทิศทางที่ดีและมีศักยภาพขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดสู่การขยายตลาดไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคได้อย่างแข็งแกร่ง

การขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
นอกเหนือจากการรุกตลาดลาว แบรนด์ “เขียง” ร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ด ยังได้ขยายสู่ประเทศฟิลิปปินส์แล้ว 2 สาขา ได้แก่ SM Fairview และ Poblacion Makati ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่เปิดให้บริการ พร้อมแผนขยายเพิ่มอีก 3 สาขาภายในปีนี้ ทั้งยังมีนักลงทุนในฟิลิปปินส์ให้ความสนใจต่อการลงทุนในแบรนด์อื่น ๆ ของ Zen Group อีกด้วย
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป กล่าวว่า “การร่วมมือกับ KoLao ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Zen Group ในการนำแบรนด์ร้านอาหารที่เราภาคภูมิใจสู่ตลาดต่างประเทศ เราเชื่อว่าความหลากหลายของแบรนด์ในเครือ และมาตรฐานคุณภาพของเซ็น กรุ๊ปจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจให้กับผู้บริโภคในลาวได้”
########
28 สิงหาคม 2568
อ่านเพิ่มเติม
"เซ็น กรุ๊ป" เดินหน้าส่งต่อความอิ่มใจ สู่ผู้หญิงแกร่ง ผ่านแคมเปญ "ZEN ปันอิ่ม ปันสุข" รับวันแม่แห่งชาติ
7 สิงหาคม 2568
อ่านเพิ่มเติม
"ZEN ปันอิ่ม ปันสุข" ส่งความสุขปักหมุดที่ รร.บ้านแก้งขิงแคง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ตอกย้ำแนวคิด ของอร่อย...ต้องแบ่งปัน!
16 พฤษภาคม 2568
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น กรุ๊ป ดึงอินไซต์ลูกค้า สร้าง Emotional Marketing คิกออฟแคมเปญส่งท้ายปี ครีเอทโมเม้นต์ความสุขผ่านมื้ออาหาร
4 ธันวาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
ตำมั่ว - ลาวญวน x ชงดี ชูกลยุทธ์ Local Collaboration + ESG ดึงเสน่ห์โลคัลหนุนวงการแบรนด์คนไทย รวมตัวกันเพื่อยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่น สู่ผู้นำตลาดร้านอาหารไทยแบบยั่งยืน
11 กันยายน 2567
อ่านเพิ่มเติม
6 มีนาคม 2567

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

28 กุมภาพันธ์ 2567

On the Table ชวนสัมผัสเสน่ห์ของผลงานศิลปะสุดคิ้วท์ใจกลางเมือง กับแคมเปญพิเศษเพื่อโปรโมทเมนูซีรีส์ใหม่อย่าง ‘Mentaiko Series’ ผ่านผลงานศิลปะสุดครีเอท ด้วยการดึง โต๊ะจัง แบรนด์คาแรคเตอร์ จับมือศิลปินสองพี่น้องคุณภัทรีดา และคุณนวลตอง ประสานทอง นักวาดภาพประกอบชื่อดังของไทย ดีไซน์คาแรคเตอร์ Sisters ที่เป็นซิกเนเจอร์ จาก แป้งนวลสตูดิโอ (Pangnual Studio) มาร่วมกันตกแต่งให้ร้าน On the Table เป็น Destinationที่ทั้งสายฟู้ดส์ และสายคอนเทนท์ ต้องแวะมาเช็คอิน ถ่ายรูปอวดโซเชียลกันแบบชิค ๆ 

หากใครเดินผ่านมาที่ร้าน On the Table ในช่วงนี้ แน่นอนว่าจะได้ชมผลงานสุดคิ้วท์ TOH CHAN x SISTERS ที่สะดุดตาตั้งแต่หน้าร้าน และการปรับบรรยากาศภายในร้านใหม่ให้มีสีสันแปลกตา น่ารักและน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งผลงานที่เกิดขึ้นนี้มีเบื้องหลังที่เริ่มจากโจทย์ของเมนูอาหาร...

เสิร์ฟเมนู ‘Mentaiko Series’ ที่มากกว่าแค่ความอร่อย

ในด้านของการนำเสนอวัตถุดิบ Mentaiko ที่หลายคนชื่นชอบและคุ้นเคยเป็นอย่างดี นำมารังสรรค์เป็น 5 เมนูใหม่ Mentaiko Series ในสไตล์ฟิวชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน On the Table มาพร้อมกับรสชาติที่เข้มข้นทุกคำ หอม มัน ยิ่งกิน ยิ่งรัก 

เริ่มต้นที่เมนู Starter คือ Mentaiko Cheese Toast (โทสต์เมนไตโกะชีส) ขนมปังโทสต์ย่างให้เป็นสีทองหั่นชิ้นพอดีคำ ทาครีมชีสฉ่ำ ๆ ท็อปด้วยซอสครีมเมนไตโกะ ท็อปด้วยไข่ปลาเมนไตโกะ ฟินสุด 

ต่อด้วย Spaghetti Ebi Yaki Mentaiko (สปาเก็ตตี้เอบิยากิเมนไตโกะ) สปาเก็ตตี้ผัดพริกกระเทียมและไข่ปลาเมนไตโกะกรุบ ๆ ท็อปด้วยกุ้งอากะเอบิย่างตัวโต รสหวาน ท็อปบนสุดด้วยซอสครีมเมนไตโกะ อร่อยแบบตะโกน!

อีกเมนูเส้นที่ห้ามพลาดคือ Mentaiko Cream Udon (เมนไตโกะครีมอุด้ง) อุด้งเส้นเหนียวหนึบคลุกเคล้ากับซอสครีมเมนไตโกะเข้มข้น หอมมันท็อปด้วยไข่ปลาเมนไตโกะ และปลาหมึกทอดคาลามารี่ ทานแล้วรับรอง ต้องมาสั่งอีกแน่นอน

รวมถึงเมนูข้าวก็น่าสนใจไม่แพ้กันกับ Salmon Mentaiko Yaki with Butter Fried Rice (ข้าวผัดเนยและปลาแซลมอนย่างซอสเมนไตโกะ) ข้าวผัดเนยหอม ๆ ท็อปด้วยไข่ปลาเมนไตโกะ ทานกับปลาแซลมอนย่าง ราดซอสเมนไตโกะ รสชาติเข้มข้น

เมนูสุดท้ายจัดเต็มเมนไตโกะหน้าล้น Mentaiko Pizza (พิซซ่าเมนไตโกะ) สุดฟินทั้งซอสเมนไตโกะและชีสเยิ้ม ๆ แป้งพิซซ่ากรอบ ปะทะความละมุนปนแซ่บของซอสครีมเมนไตโกะ 

ความโดดเด่นของวัตถุดิบและเมนูใหม่ในครั้งนี้ถูกต่อยอดเป็นไอเดียสร้าง Food Creation รูปแบบใหม่ และเป็นหนึ่งโจทย์ที่มอบให้กับศิลปินจาก แป้งนวลสตูดิโอ ให้ดีไซน์ผลงานเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟสไตล์สุดเก๋โดยเฉพาะ

NEW EXPERIENCE 

การดีไซน์ผลงานในทุกจุดมีส่วนช่วยในการสื่อสารแคมเปญทั้งหมด จากโจทย์ที่ต้องนำเมนู Mentaiko Series และ โต๊ะจัง แบรนด์คาแรคเตอร์ ที่เป็นสาวนักกิน ช่างพูด และซุกซน มารวมในงานดีไซน์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ คุณแป้ง-คุณนวล ประกบกับคาแรคเตอร์ Sisters จาก แป้งนวลสตูดิโอ กลายเป็น 3 สาวที่ออกมาเชิญชวนลูกค้าเข้าร้านให้มาทานอาหารอร่อย ๆ ผ่าน Wall Wrapping เต็มกระจกหน้าร้าน และกิมมิคเล็ก ๆ ในการเจาะภาพบางส่วนให้โปร่งใส เพื่อให้ลูกค้าที่นั่งอยู่เป็นส่วนหนึ่งของผลงาน และมองเห็นบรรยากาศภายในร้านได้ ส่วนด้านในร้านก็มี Wall Wrapping ทั่วทั้งร้าน ซึ่งมีจุดไฮไลท์สำหรับให้สายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ มาเซลฟี่ในมุม Photogenic Spot กับกระจกตั้งพื้น และกระจกที่อยู่บนผนัง ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

ปักหมุดหมาย 4 สาขาใจกลางเมืองที่เป็นสาขาใหญ่ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพระราม 9, เซ็นทรัลลาดพร้าว และสามย่านมิตรทาวน์ เพื่อให้เดินทางมาเสพงานศิลป์ ถ่ายรูปเช็คอินชิค ๆ กับ TOH CHAN x SISTERS พร้อมทานอาหารอร่อย ๆ กันได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายคือ กระเป๋าสุดเก๋ คอลเลคชันพิเศษ Toh Chan x Sisters ที่ดีไซน์โดย คุณแป้ง-คุณนวล แจกฟรีให้กับลูกค้าในช่วงแคมเปญ ตั้งแต่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 จนถึง 30 เมษายน 2567 เมื่อทานครบ 1,500 บาท ที่ร้าน On the Table กว่า 20 สาขาที่ร่วมรายการ 

ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/OntheTableTokyoCafe

18 มกราคม 2567

AKA (อากะ) ร้านอาหารในเครือบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำผู้นำยากินิกุบุฟเฟต์อันดับหนึ่ง ที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนานกว่า 16 ปี เปิดตัวแคมเปญบ้าพลังครั้งใหญ่ ‘AKA Champion ปิ้งจุกสุขทั่วไทย’ ขอท้าเซียนบุฟเฟต์ทั่วไทย มาร่วมชิงเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะ กับการเป็นสุดยอดนักกินจุ AKA Champion ประจำปี 2567 คนแรกของประเทศไทย และยังได้รับรางวัลกินฟรี Premium Buffet ตลอดปีด้วย

โอกาสนี้เปิดกว้างสำหรับเหล่านักกินจุทั่วไทย รับสมัครตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2567 – 4 มีนาคม 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ เพียงแค่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดเพศ จัดแข่งขันรอบคัดเลือกทั้งหมด 5 รอบ เพื่อหาตัวแทนนักกินจุ 3 อันดับแรกที่สามารถกินได้จำนวนถาดได้มากที่สุดของแต่ละภาค มาแข่งขันกันในรอบชิงชนะเลิศ 

โดยการแข่งขันจะถูกจัดขึ้นทั้งหมด 5 รอบ ปักหมุดโลเคชั่นใจกลางหัวเมืองใหญ่ที่ ‘ศูนย์การค้าเซ็นทรัล’ ซึ่งที่มีสาขาครอบคลุม สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด และยังตอบโจทย์กับการจัดแคมเปญใหญ่ของ AKA ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งรายละเอียดการแข่งขันมีดังนี้

ภาคกลาง – กรุงเทพมหานคร จัดแข่งขันในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สาขา เซ็นทรัลพระราม 9 

ภาคตะวันออก – จังหวัดชลบุรี จัดแข่งขันวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สาขา เซ็นทรัลพัทยา 

ภาคอีสาน – จังหวัดอุดรธานี จัดแข่งขันวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สาขา เซ็นทรัลอุดรธานี 

ภาคเหนือ-จังหวัดเชียงใหม่ จัดแข่งขันวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สาขา เซ็นทรัลเชียงใหม่ 

ภาคใต้-จังหวัดสงขลา จัดแข่งขันวันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่สาขา เซ็นทรัลหาดใหญ่ 

และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ จัดแข่งขันในวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เด็ดในรอบคัดเลือกของแต่ละภาค สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่เป็น ‘ตัวจี๊ด’ ประจำภาค ที่ดีไซน์ชุดแต่งกายสุดครีเอทีฟ ที่ได้แรงบันดาลใจจากแบรนด์ AKA หรือโปรดักส์ภายในร้าน มาร่วมแข่งในวันนั้น จะได้รับ Fast Track ตัวจี๊ดประจำภาค เข้ารอบชิงชนะเลิศจำนวน 1 คน ทันที! ซึ่งผู้ที่ได้รับ Fast Track ตัวจี๊ดประจำภาคจะได้รับถ้วยรางวัลตัวจี๊ดไปครองด้วย 

AKA Champion เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ ในแต่ละภาคที่จัดการแข่งขัน ผู้สมัครสามารถสมัครได้ท่านละ 1 รอบการแข่งขันเท่านั้น ค่าสมัครเพียง 399บาท (ผู้แข่งขันจะได้รับคูปองรับประทาน Meat Lover Buffet: E - Voucher มูลค่า 480 บาท เพื่อใช้ในครั้งต่อไปทันที) 

สมัครเลยตอนนี้ ผ่าน Line ZEN GROUP คลิก >> https://page.line.me/zengroupth

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/48k0Ezk

 

#AKACHAMPION #อากะปิ้งจุกสุขทั่วไทย #AKAYAKINIKU 

14 ธันวาคม 2566
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์ตัวเลขไตรมาส 3 ปี 2566 รายได้รวม 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้น 11% และรายได้ธุรกิจค้าปลีกเติบโตขึ้น 58% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 2,883 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 17% จากงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือ 20% และมีกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท หรือ 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ในส่วนของ ‘ธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ร้าน’ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% และสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้เพิ่มขึ้น 414 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ อาทิ เดอ ตำมั่ว (De Tummour) ร้านอาหารไทยในเครือ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The original Thai food’ ยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย พร้อมลุยตลาดร้านอาหารไทยแบบเต็มตัว เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมปั้นโมเดลต้นแบบ Flagship Store โฉมใหม่ ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา

ทั้งนี้ยังมีการออกแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค กับปรากฏการณ์ครั้งแรกของแบรนด์ ‘อากะ’ ฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาววววววว’ ต่อยอดมะนาวช็อต ตบท้ายมื้อปิ้งย่าง สู่ Product Killer ‘AKA LONG SHOT’ ดึงลูกค้าเข้าร้าน ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่เกิดจากเสียงของผู้บริโภค (Voice of Customer) ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างล้นหลาม และยังมีแคมเปญโปรโมชั่นอื่น ๆ ของทุกแบรนด์ในเครือ ทำให้มีจำนวนลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากช่องทางนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 
นอกจากนี้ยังมี ‘การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง’ โดยบริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 18 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 13 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา หากนับรวมในงวด 9 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 33 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 20 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 12 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 3 กรกฎาคม - กันยายน ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้
  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 6 สาขาใหม่ ได้แก่ มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล มหาชัย, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี, เซ็นทรัล ศรีราชา รวมทั้งหมดเป็น 50 สาขา และเตรียมเปิดอีก 4 สาขา ภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 3 สาขาใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัลรามอินทรา, ศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต, เซ็นทรัล มหาชัย รวมทั้งหมดเป็น 51 สาขา และเตรียมเปิดอีก 5 สาขาภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 2 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะ พอร์ทอล อิมแพ็ค เมืองทองธานี, เทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 31 สาขา และเตรียมเปิดอีก 3 สาขาภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ ตำมั่ว เปิดสาขาแฟรนไชส์ 4 สาขาใหม่ และเปิด เดอ ตำมั่ว เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 1 สาขาใหม่ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ลาวญวน เปิด 1 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ ได้แก่ เซ็นทรัล ระยอง และสาขาแฟรนไชส์อีก 1 สาขา
  • แบรนด์ เขียง เซอร์ไพรส์ช่วงท้ายปีกับการเตรียมเปิดสาขาแฟรนไชส์ที่สาขาต่างประเทศอีก 2 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 329 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 166 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 154 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 9 สาขา
และอีกธุรกิจที่โดดเด่นคือ ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรส ธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
รวมถึง ‘การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ’ ทั้งค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างของหน่วยงานสนับสนุนภายในองค์กรในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยังคงมีปัจจัยด้านต้นทุนราคาวัตถุดิบของทั้งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจอาหารค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากแรงกดดันด้านอุปทานจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้บริษัทต้องวางแผนการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ทาง เซ็น กรุ๊ป ยังได้รับการประเมินติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับผลประเมินเป็น ‘หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2566’ ซึ่งผลรวมการประเมินที่ได้รับคะแนนรวมเพิ่มมากขึ้นในทุกปี ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)
“สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4 ก็ยังคงมุ่งเน้นเรื่องการออกแคมเปญที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงส่งท้ายปี ของทุกแบรนด์ในเครือ และปักหมุดขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิต และปรับเพิ่มรูปแบบการจัดจำหน่าย เพื่อครอบคลุมและรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในหลากหลายช่องทาง” คุณยุพาพรรณ กล่าวทิ้งท้าย
8 กันยายน 2566
เดอ ตำมั่ว (De Tummour) ร้านอาหารไทยในเครือเซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ เซ็น กรุ๊ป ภายใต้คอนเซ็ปต์ 
‘The original Thai food’ ยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย พร้อมลุยตลาดร้านอาหารไทยแบบเต็มตัว ผ่านกลยุทธ์ 4P ปั้นโมเดลต้นแบบ Flagship Store โฉมใหม่ ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา หวังเพิ่มปริมาณลูกค้าชาวต่างชาติเข้าร้าน พร้อมผลักดัน Soft Power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแบบสร้างสรรค์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของคนไทย

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจอาหารไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แถมยังมีคู่แข่งน้องใหม่หลายรายที่กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นความท้าทายของธุรกิจที่จะต้องปรับตัวอยู่เสมอ โดยในปีนี้เราจึงได้มีการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ ลุยปั้นโมเดล Flagship Store โฉมใหม่ของ เดอ ตำมั่ว และยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย รวมถึงการสร้างภาพจำใหม่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นให้กับแบรนด์ ด้วยการวางกลยุทธ์ 4P เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย”

เดอ ตำมั่ว กับ กลยุทธ์ออกแบบใหม่ให้ครบทั้ง 4P เพื่อเสริมจุดแข็งให้กับแบรนด์ สู่การขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งวงการร้านอาหารไทย

Product 
เดอ ตำมั่ว วาง Position ของตัวเองเป็นร้านอาหารไทยแท้ ๆ การออกแบบเมนูก็จะเป็นการอิงจากเมนูที่เป็นสำรับไทย มีความครบรส ครบเครื่อง ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด และตำ รสชาติที่ตอบโจทย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นำมายกระดับไปอีกขั้นด้วยการเสริมประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเชฟ กับการนำเสนอเมนูต้มแซ่บเนื้อสันนอกวากิว (A3) โชว์การปรุงเมนูถึงโต๊ะอาหาร รินซุปจัดจ้านร้อน ๆ ผสมสมุนไพรหอมฟุ้ง หรือการยกระดับเมนูกุ้งกรุงศรี (กุ้งแม่น้ำย่าง) ที่ไม่เพียงเสิร์ฟคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดแต่เสิร์ฟมาพร้อมกับตำไทย, ผัดไทยที่เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นด้วยมันกุ้งนำไปคลุกเข้ากับเส้นผัดไทย, เนื้อสันนอกออสเตรเลียย่างจิ้มแจ่ว เนื้อชั้นเลิศบนกะทะร้อน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 รสชาติ, ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ปูนิ่มทอดกรอบตัวใหญ่ไซส์พิเศษ ผัดกับผงกะหรี่และไข่จนหอมมันเข้มข้น และชุดออเดิร์ฟของทอด รวมเมนูของทานเล่นไทยกับเมนูที่ประดิษฐ์ประดอย พิถีพิถัน ทั้งหน้าตาและรสชาติตามตำรับชาววัง ที่แนะนำให้สั่งก่อนเริ่มมื้ออาหาร

Place
ปักหมุด เดอ ตำมั่ว ในทัวร์ริสต์ มอลล์ อย่างเทอร์มินอล 21 พัทยา บนพื้นที่ที่มียอดทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเป็นหลัก คาดว่าทำเลที่ตั้งแห่งนี้จะสามารถดันยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายนี้ได้เป็นอย่างดี
ประกอบกับงานออกแบบร้าน เดอ ตำมั่ว ถูกเล่าผ่านคอนเซ็ปต์ ‘ครัวไทยบ้าน’ แรงบันดาลใจจากบ้านสไตล์ไทย ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ดูทันสมัย ถ่ายทอดภาพลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ออกมาได้เป็นอย่างดี ร้านจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนหน้าบ้าน เนรมิตตลาดชุมชนเล็ก ๆ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของคนในพื้นที่ และของฝากจากชุมชน เพื่อส่งต่อความตั้งใจในการผลักดัน Soft Power อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้และความแข็งแกร่งให้กับคนไทยด้วย
โซนในบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศ สบาย ๆ เป็นกันเอง ความตั้งใจที่อยากให้ลูกค้าเข้ามาทานอาหารรู้สึกเหมือนได้ทานข้าวบ้านเพื่อน ตกแต่งด้วยตู้กับข้าว โต๊ะและเก้าอี้ที่คละดีไซน์สไตล์แม่เลือก โดดเด่นด้วยการใช้เทคนิคเสริมช่องกระจกรับแสงบนเพดาน สไตล์บ้านไทยที่ชอบเปิดรับแสงธรรมชาติ การเลือกใช้โทนสีไทยโทน เขม่ายาง, เขียวปีกกา, แดงตัด, ในการตกแต่งภายในร้าน รวมถึงงานดีไซน์ทั้งหมดของร้านด้วย อีกทั้งยังแฝงงานหัตถกรรมที่ถือเป็นเสน่ห์ของไทย ด้วยการคอลแลปฯ กับ PDM แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของคนไทย อีกหนึ่ง Soft Power โชว์ผลงานที่เป็นผลิตภัณฑ์ เสื่อไทย เอกลักษณ์จากหัตถกรรมจักสานของคนไทย วัสดุพิเศษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย้อมด้วยสีไทยโทน ‘เขม่ายาง’ และลวดลายสวยงามที่เข้ากับวิถีคนยุคใหม่ นำมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบของทางร้านได้อย่างลงตัว

Price การกำหนดราคาขายของเมนูในร้าน ที่เหมาะสมกับคุณภาพและรสชาติของอาหารที่เสิร์ฟ 

Promotion กลยุทธ์การทำการตลาด ในช่วงแรกของการเปิดสาขาจะเน้นโปรโมชั่นการแถมเมนูพิเศษที่ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างกระบวนการส่งต่อความประทับใจแบบเรียล ๆ ด้วยการใช้ User Generated Content (UGC) การันตีคุณภาพ รสชาติ และประสบการณ์ที่ได้รับจากทางร้าน บน Social Platform ยอดนิยมของแต่ละประเทศ ช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างและยังกระตุ้นให้เกิดยอดขายที่มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้แบรนด์ เดอ ตำมั่ว ก็ยังคงเน้นการขายแฟรนไชส์เป็นหลักเช่นเดียวกับแบรนด์ไทยในเครือ ซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่โดดเด่นรองลงมาจากธุรกิจอาหารที่เป็นธุรกิจหลักของ เซ็น กรุ๊ป โดยในช่วงครึ่งปีแรก ปี 66 รายได้จากการให้สิทธิ
แฟรนไชส์ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าการปั้นโมเดลต้นแบบFlagship Store สาขานี้ จะสามารถดันยอดขายให้ธุรกิจอาหารเติบโต และภายใต้โมเดลเดียวกันนี้จะส่งผลให้สามารถต่อยอดการขายสิทธิแฟรนไชส์ให้เติบโตขึ้นได้ด้วยเช่นกัน” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
 
25 พฤษภาคม 2566
คิงมารีน ฟู้ดส์ ในเครือบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณธีรทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ (ลำดับที่ 4 จากซ้าย) และคุณณัฐฐศศิ บำเหน็จพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท คิงมารีน ฟู้ดส์ จำกัด (ลำดับที่ 5 จากซ้าย)  ร่วมโชว์ศักยภาพการเป็นผู้นำธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานระดับสากลจากแหล่งที่มาทั่วทุกมุมโลก ยกขบวนกองทัพวัตถุดิบ ทั้งอาหารทะเลนานาชนิด อาทิ ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ รวมถึงเนื้อวากิวญี่ปุ่น และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน นำมาจัดแสดงในงาน THAI FEX – Anuga Asia 2023 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 ที่บูธ 3-J71 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี