TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป ดึงอินไซต์ลูกค้า สร้าง Emotional Marketing คิกออฟแคมเปญส่งท้ายปี ครีเอทโมเม้นต์ความสุขผ่านมื้ออาหาร
เซ็น กรุ๊ป ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าช่วงปลายปีกับการครีเอทโมเม้นต์ดี ๆ ผ่านมื้ออาหารจากแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ ภายใต้กลยุทธ์ Emotional Marketing ที่จะดึงอินไซต์ลูกค้ามาต่อยอดสู่แคมเปญส่งท้ายปีที่จะสร้างคุณค่าให้กับการทานอาหารและช่วยเติมเต็มความสุขทางใจที่มากกว่าแค่ความอร่อย เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าเดิมและขยายโอกาสสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่อยากร่วมฉลองปีใหม่ไปพร้อมกัน

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงปลายปี 2567 พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสะท้อนถึงการปรับตัวต่อสภาพเศรษฐกิจและไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงมีการใช้จ่ายกับร้านอาหารอยู่ โดยเฉพาะร้านที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวก ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่ดี รวมถึงคุณค่าที่ได้รับจากการทานอาหาร ส่งผลให้ช่วงปลายปีนี้แคมเปญส่งท้ายปีของแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ จึงใช้กลยุทธ์ Emotional Marketing โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนพิเศษของเรา เริ่มต้นตั้งแต่การดึงข้อมูลอินไซต์ของลูกค้ามาต่อยอดด้านเมนูอาหาร สร้างความประทับใจตลอดการใช้บริการ และร่วมสร้างโมเม้นต์ดี ๆ แห่งความสุขด้วยกัน

“เพราะเราเชื่อว่าอาหารให้มากกว่าแค่ความอร่อย”
‘ปลาแซลมอน’ เป็นวัตถุดิบที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘ZEN’ ซึ่งมียอดการสั่งมากกว่า 30% และคาดว่าจะมากขึ้นในทุกปี อีกทั้งในช่วงที่ออกเมนูใหม่ Salmon Freshtival เมื่อปี 66 ที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ช่วงปลายปีนี้ แบรนด์จึงนำวัตถุดิบ ‘ปลาแซลมอน’ ยกเป็นตัวแทนของการเฉลิมฉลองภายใต้แคมเปญ Oshogatsu Blessings เปิดรับสิ่งดี ๆ สู่ปีแห่งความมงคล พร้อมดึงดูดให้ลูกค้านัดรวมตัวฉลองกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนพิเศษ กับ 7 เมนูพิเศษที่ห้ามพลาด คือ แซลมอนเซริวมากิ, แซลมอนโคโรเกะอโวคาโมเล่, ปลาแซลมอนชิตาเกะย่างใบโฮบะ, แซลมอนซาชิมิ 5 สไตล์, เครซี่แซลมอนซาชิมิ, แซลมอนและท้องแซลมอนทอดผัดพริกเกลือกระทะร้อน
นอกจากเมนูอาหารที่อร่อยแล้ว ยังรับฟรี Rakki Hoodie แมวซูชินำโชค เมื่อสั่งเมนูในแคมเปญนี้ จำนวน 1 เมนู ร่วมกับเมนูอื่น ๆ ภายในร้านครบ 2,200 บาท และรับ Origami Bird นกกระเรียนพับฝีมือน้อง ๆ เด็กพิเศษจากมูลนิธิสถาบันแสงสว่างที่ตั้งใจมาร่วมอวยพรลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยไอเดียนกกระเรียนพับนี้มาจากความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวแทนของ ‘นกแห่งความสุข โชคลาภ และการมีอายุยืนยาว’ แคมเปญเริ่ม 21 พฤศจิกายน 2567 – 17 กุมภาพันธ์ 2568

‘พาสต้า’ เมนูเส้นที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘On the Table’ การันตีจากยอดขายการสั่งเฉพาะเมนูพาสต้าสูงถึง 13% ทำให้แคมเปญช่วงปลายปีนี้แบรนด์ตัดสินใจออกเมนูเป็นพาสต้าล้วน เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ หลายหลายรสชาติในครั้งเดียว จนเกิดเป็นแคมเปญยกขบวน ‘Pasta Parade’ ส่งท้ายสิ้นปีกับโต๊ะจัง นำทีมโดย ‘เฟตตูชินี่เพสโต้ทรี’ ที่ออกแบบเป็นพาสต้าต้นคริสต์มาส ใส่ซอสเพลสโต้ให้เป็นสีเขียว ประดับด้วยสม๊คแซลมอน กุ้งย่าง หอยโฮตาเตะ ท็อปปิ้งเพิ่มความฟินด้วยชีสเฟต้าสวยงามดุจเกล็ดหิมะ แถมยังมีอีก 3 เมนูพาสต้า คือ อูด้งเมนไตโกะคาโบนาร่า, คาเปลลินี่เย็นซีฟู้ด, เฟตตูชินีมิโสะบัตเตอร์และแซลมอนอบซอสเนยกระเทียม และเมนูของหวาน โทสต์เอิร์ลเกรย์บานาน่า รวมถึงเครื่องดื่มอย่าง เวอร์จิ้นไวท์แซงเกรีย อีกทั้งยังมีคลิปวีดีโอสั้นที่ถ่ายทอดมุมมองเรื่องความสุขบนโต๊ะอาหาร ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กที่วาดต้นคริสต์มาสลงบนกระดาษ ต่อยอดสู่เมนูไฮไลท์พาสต้าต้นคริสต์มาสให้ได้ชมอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทางแบรนด์ตั้งใจสร้างสรรค์มื้ออาหารแห่งการเฉลิมฉลองและเพิ่มสีสันให้เทศกาลส่งท้ายปีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แคมเปญเริ่ม 2 ธันวาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568

‘ชีส’ เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกสนุก ตรงกับคาแรคเตอร์ของ ‘AKA’ ยากินิกุ ที่จับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ที่อยากมาตะลุยกินปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์สุดคุ้ม จากข้อมูลพบว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีการสั่งเมนูชีสกว่า 10% จากออเดอร์ทั้งหมด ทำให้ช่วงปลายปีนี้แบรนด์ได้ออกแคมเปญ ‘ชีสนัว’ ครีเอทเมนูใหม่จากชีสกว่า 18 เมนู อาทิ 3 เมนูชีสดิป ชีสฟองดูว์, ชีสโรเซ่ฟองดูว์, ชีสทรัฟเฟิลฟองดูว์, เบคอนเนื้อ AUS พันชีส, เนื้อแกะพันชีสหม่าล่า, หอยเชลล์ย่างชัสทรัฟเฟิล, หอยเชลล์ย่างสไปซี่มิโสะชีส, กุ้งแม่น้ำชีสทรัฟเฟิล, ทรัฟเฟิลแมคแอนด์ชีส, กุ้งแม่น้ำสไปซี่มิโสะชีส และมะนาวช็อตครีมชีส เป็นต้น จนเป็นอีกหนี่งปรากฏการณ์ที่เรียกได้เต็มปากว่า ‘บุฟเฟต์ชีส’ ลูกค้าสั่งชีสมาเต็มโต๊ะเลยทีเดียว คุ้มค่าทั้งราคา คุณภาพวัตถุดิบ และสร้างโมเม้นต์แห่งความสนุกร่วมกันในช่วงส่งท้ายปีได้เป็นอย่างดี แถมยังกระตุ้นให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ในเรื่องความสนุกได้อย่างขึ้นใจ แคมเปญเริ่ม 15 ตุลาคม 2567 – 15 กุมภาพันธ์ 2568

‘วัตถุดิบตามฤดูกาล’ เป็นเสน่ห์ของร้าน ‘Sushi Cyu’ ที่นำเสนอความพิเศษของโอมากาเสะซูชิ ด้วยการเปิดประสบการณ์รสสัมผัสแห่งฤดูหนาว ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศประจำฤดูกาล อาทิ ปูขนญี่ปุ่น, อังกิโมะ ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล”, เสปิร์มไข่ปลาคอต, ไข่หอยเม่นจากฮอกไกโด และวัตถุดิบอีกมากมายมาให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับโอมากาเสะสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ ลิ้มลอง Winter Omakase Course ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

“แคมเปญเหล่านี้เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะเชื่อมโยงกับอารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจ และสร้างการจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกแบรนด์ในเครือของเราจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในทุกช่วงเวลาสำคัญของลูกค้าคนพิเศษของเรา คาดว่าในช่วงส่งท้ายปีจะสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดร้านอาหารอย่างคึกคักแน่นอน” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line @ZENGroupT
4 ธันวาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
29 ธันวาคม 2566

‘เซ็น เรสเตอร์รอง’ แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น ครีเอทไอเดียสุดปังต้อนรับปีใหม่ เอาใจสายมู เสริมดวง ผ่าน 5 เมนูมังกรมงคลที่ใช้ศาสตร์ความเชื่อของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การงานเติบโต การเงินรุ่งเรือง ความรักสุดปัง สุขภาพแข็งแรง และอีกปัจจัยสำคัญคือการได้ทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ เสริมความมงคล เพราะหากได้รับพลังงานจากอาหารที่ดีจะส่งผลให้ชีวิตดีขึ้น อีกทั้งยังได้เช็คดวงปัง ๆ ไปกับหมอดูต๊อกแต๊ก A4 เรียกได้ว่าเป็นการก้าวสู่ปี 2567อย่างสมบูรณ์

คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไฮไลท์สำคัญกับแคมเปญเอาใจสายมูส่งท้ายปี ต่อยอดสู่ไอเดียในการรวมเสน่ห์ของศาสตร์ความเชื่อญี่ปุ่น และศิลปะในการรังสรรค์เมนูอาหารญี่ปุ่น มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ใหม่ เสิร์ฟความพิถีพิถัน การคัดสรรคุณภาพวัตถุดิบ ผ่านการตกแต่ง Food Presentation แบบอลังการตามสไตล์ของร้าน ด้วยการดึงหมอดูต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดังคุณภาพ ที่มีผู้ติดตามครอบคลุมตั้งแต่รุ่น Gen Y, Gen Z และกลุ่มที่ชื่นชอบการดูดวง ซึ่งในกลุ่มเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของทางแบรนด์ด้วย โดยมีการทำนายดวงต้อนรับปีมังกรทอง พร้อมวิธีการเสริมดวงด้วย 5 เมนูมังกรมงคล จาก เซ็น เรสเตอร์รอง ซึ่งรับประกันในเรื่องของคุณภาพ และยังมีวัตถุดิบที่เป็นมงคลเข้าไปด้วย”

5 เมนูมังกรมงคลเสริมดวงปี 2567

“ข้าวหน้าปลาดิบบาระชิราชิมังกร” เมนูปลาเสริมดวงเรื่องของคนอุปถัมภ์ เสริมเรื่องสติปัญญา เมนูนี้มีวัตถุดิบ อาทิ อากามิ ฮามาจิ หอยเชลล์ญี่ปุ่น ไข่หวาน ท็อปด้วยเนื้อปูซูไว และกุ้งหวานตัวใหญ่โรยด้วยไข่ปลาแซลมอน ไข่กุ้งส้ม และไข่กุ้งดำ กุ้งหวานดีไซน์การวางอยู่ด้านบนตรงกลาง มีความสง่าเชิดหัวแบบมังกร เชื่อว่าดวงการงานจะเติบโตแบบพุ่งทะยานด้วย โดย ราศีที่ดวงงานเด่น เติบโต ประสบความสำเร็จ ได้แก่ ‘ราศีมังกรราศีตุลย์ราศีพฤษภราศีกันย์ และราศีธนู’ 

“ข้าวผัดปูชูไวไข่มังกร” ข้าวผัดมันปูสุดหอม ทวีความหอมด้วยคานิมิโสะ ทานพร้อมเนื้อปูซูไว ไข่กุ้ง และไข่ปลาแซลมอนแสนอร่อย อีกทั้งปูเป็นสัญลักษณ์ของความมงคล เน้นเสริมดวงเรื่องเงิน กำไรดี และก็ยังช่วยเสริมเรื่องความอุดมสมบูรณ์ให้ชีวิต ใครที่อยู่ใน 5 ราศีนี้ คือ ‘ราศีมิถุน, ราศีกุมภ์, ราศีสิงห์, ราศีพิจิก และ ราศีเมษ’ เตรียมเงินหล่นทับ และอย่าลืมเสริมดวงด้วยเมนูนี้กันได้เลย

“โรลปลาไหลและหอยเชลล์ญี่ปุ่นมังกร” เมนูนี้มีความพันโรลแน่นแฟ้น เสริมความรักปัง โดยเมนูนี้จะมีโรลปลาไหล และกุ้งหวานท็อปด้วยหอยเชลล์ญี่ปุ่น ไข่กุ้งดำ ไข่กุ้งส้ม ราดด้วยซอสปลาไหลและมายองเนส วางเป็นขั้นบันไดไต่ขึ้นสู่ท้องฟ้า มีหัวกุ้งทอดวางชั้นบนสุดเสมือนเป็นหัวมังกร ทานกับเครื่องเคียงถั่วดำคุโรมาเมะ และมันญี่ปุ่นเชื่อม โดย 5 ราศีรักปังคือ ‘ราศีมีน, ราศีมิถุน, ราศีกุมภ์, ราศีเมษ และราศีกรกฎ’ ปังแบบนี้ต้องชวนกันมาเดททานเมนูมงคลด้วยกัน

ราศีที่ต้องระวังเรื่องสุขภาพในปี 2024 มีเกณฑ์เจ็บไข้ได้ป่วย หรือโรคภัยถามหา ต้องหมั่นทำบุญ แนะนำให้ไปแก้เคล็ดด้วยการบริจาคโลงศพ และทานอาหารเสริมดวง เสริมพลัง กับเมนู “หีบสมบัติมังกร” ด้วยวัตถุดิบหลากหลายที่มีความหมายมงคล และเชื่อว่า กุ้ง เป็นตัวแทนของการมีอายุยืนยาว เน้นภาพรวมของเมนูนี้เป็นโทนสีขาว สีส้ม ซึ่งเป็นสีเสริมในเรื่องสุขภาพปีนี้ และยังมีข้าวต้มญี่ปุ่นอิกะมัทฉะ, มากิแซลมอนอากามิ, ถั่วดำคุโรมาเมะ, ไข่ปลาอิคุระ และคามาโบโกะ ในกล่องด้วย โดย 5 ราศีที่ต้องระวัง คือ ‘ราศีกันย์, ราศีพิจิก, ราศีมังกร, ราศีสิงห์ และ ราศีกรกฎ’

“มังกรทองซาซิมิ รวม 7 อย่าง” เมนูนี้เสริมเรื่องโชคลาภแบบจัดเต็มชีวิตจะมีแต่ความรุ่งเรือง โดยวัตถุดิบหลักคือ แซลมอน นำมารังสรรค์เป็นตัวมังกรไต่ขึ้นสู่ท้องฟ้า (โชริว) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงและกล้าหาญ และวัตถุดิบอื่น ๆ อีกหลากหลาย ได้แก่ กุ้งหวาน, ท้องปลาแซลมอน, ไข่ปลาแซลมอน (ไข่มังกร), หอยปีกนก, หอยเชลล์ญี่ปุ่น, อากามิ, ฮามาจิ และ 5 ราศีนี้ที่จะได้โชคลาภจุก ๆ ก็คือ ‘ราศีมังกร, ราศีมีน, ราศีพฤษภ ,ราศีตุลย์ และราศีกันย์’

สุดท้ายนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า 5 เมนูใหม่ของ เซ็น เรสเตอร์รอง ที่ออกมาต้อนรับปีมังกรทอง นอกจากเรื่องรสชาติ คุณภาพของวัตถุดิบ ความประณีตในการจัด Food Presentation แบบอลังการแล้ว ยังช่วยเสริมดวงตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น หากได้ทานอาหารดี ๆ จะช่วยเสริมพลังงานให้ปีนั้นได้เจอแต่สิ่งที่ดี อาหารสิริมงคลจะดึงดูดพลังงานดี ๆ 

นอกจากเรื่องอาหาร ยังมีไอเทมสุดน่ารักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อเรื่อง สัตว์มงคล ซึ่งปีก่อนไอเทมประจำปีคือ น้องรักกิ (Rakki) แมวซูชินำโชค ปีนี้ได้ถูกนำมาต่อยอดเป็น Lucky Dragon แมวมังกรมงคล ที่ช่วยเสริมความมงคลในปีมังกรทองนี้ และสามารถนำกลับบ้านได้ด้วย เพียงสั่งเมนู “มังกรมงคล” 1 เมนู และอาหารอื่น ๆ ภายในร้าน ครบ 2,500 บาท รับตุ๊กตา Lucky Dragon มูลค่า 390 บาท เอาไปไว้เสริมสิริมงคลให้ปี 2567 ให้เป็นปีที่ปังสุด ๆ กัน 

“ขอให้ช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีมังกรทองนี้ ให้ เซ็น เรสเตอร์รอง ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนและอวยพรให้ลูกค้าทุกคนประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ผ่านมื้ออาหารที่ดีมีคุณภาพ แถมยังเสริมความมงคลได้อีกด้วย” คุณมยุรี กล่าวทิ้งท้าย

เตรียมรับความมงคลได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ร้านอาหารเซ็น เรสเตอร์รอง ทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขา จังซีลอน ภูเก็ต) 

คลิปหมอดูต๊อกแต๊ก A4 : https://fb.watch/pcRxk2er9Q/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Zenjapaneserestaurant หรือ Line @ZENGroupTH

14 ธันวาคม 2566
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์ตัวเลขไตรมาส 3 ปี 2566 รายได้รวม 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้น 11% และรายได้ธุรกิจค้าปลีกเติบโตขึ้น 58% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 2,883 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 17% จากงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือ 20% และมีกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท หรือ 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ในส่วนของ ‘ธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ร้าน’ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% และสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้เพิ่มขึ้น 414 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ อาทิ เดอ ตำมั่ว (De Tummour) ร้านอาหารไทยในเครือ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The original Thai food’ ยกระดับประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ครบเครื่องเรื่องอาหารไทย พร้อมลุยตลาดร้านอาหารไทยแบบเต็มตัว เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมปั้นโมเดลต้นแบบ Flagship Store โฉมใหม่ ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา

ทั้งนี้ยังมีการออกแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค กับปรากฏการณ์ครั้งแรกของแบรนด์ ‘อากะ’ ฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาววววววว’ ต่อยอดมะนาวช็อต ตบท้ายมื้อปิ้งย่าง สู่ Product Killer ‘AKA LONG SHOT’ ดึงลูกค้าเข้าร้าน ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่เกิดจากเสียงของผู้บริโภค (Voice of Customer) ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างล้นหลาม และยังมีแคมเปญโปรโมชั่นอื่น ๆ ของทุกแบรนด์ในเครือ ทำให้มีจำนวนลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากช่องทางนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 
นอกจากนี้ยังมี ‘การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง’ โดยบริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 18 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 13 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา หากนับรวมในงวด 9 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 33 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 20 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 12 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 3 กรกฎาคม - กันยายน ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้
  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 6 สาขาใหม่ ได้แก่ มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล มหาชัย, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี, เซ็นทรัล ศรีราชา รวมทั้งหมดเป็น 50 สาขา และเตรียมเปิดอีก 4 สาขา ภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 3 สาขาใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัลรามอินทรา, ศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต, เซ็นทรัล มหาชัย รวมทั้งหมดเป็น 51 สาขา และเตรียมเปิดอีก 5 สาขาภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 2 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะ พอร์ทอล อิมแพ็ค เมืองทองธานี, เทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 31 สาขา และเตรียมเปิดอีก 3 สาขาภายในสิ้นปี
  • แบรนด์ ตำมั่ว เปิดสาขาแฟรนไชส์ 4 สาขาใหม่ และเปิด เดอ ตำมั่ว เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 1 สาขาใหม่ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ลาวญวน เปิด 1 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ ได้แก่ เซ็นทรัล ระยอง และสาขาแฟรนไชส์อีก 1 สาขา
  • แบรนด์ เขียง เซอร์ไพรส์ช่วงท้ายปีกับการเตรียมเปิดสาขาแฟรนไชส์ที่สาขาต่างประเทศอีก 2 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 329 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 166 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 154 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 9 สาขา
และอีกธุรกิจที่โดดเด่นคือ ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรส ธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
รวมถึง ‘การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ’ ทั้งค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างของหน่วยงานสนับสนุนภายในองค์กรในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยังคงมีปัจจัยด้านต้นทุนราคาวัตถุดิบของทั้งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจอาหารค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากแรงกดดันด้านอุปทานจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้บริษัทต้องวางแผนการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ทาง เซ็น กรุ๊ป ยังได้รับการประเมินติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับผลประเมินเป็น ‘หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2566’ ซึ่งผลรวมการประเมินที่ได้รับคะแนนรวมเพิ่มมากขึ้นในทุกปี ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)
“สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4 ก็ยังคงมุ่งเน้นเรื่องการออกแคมเปญที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงส่งท้ายปี ของทุกแบรนด์ในเครือ และปักหมุดขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิต และปรับเพิ่มรูปแบบการจัดจำหน่าย เพื่อครอบคลุมและรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในหลากหลายช่องทาง” คุณยุพาพรรณ กล่าวทิ้งท้าย
14 ธันวาคม 2566
ปีใหม่นี้ ร้านปิ้งย่างชื่อดัง ‘อากะ’ ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ สร้างประสบการณ์ใหม่ เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ สายเกาหลีเลิฟเวอร์!  กับการแปลงโฉมเป็นอปป้า ในคอนเซปท์ ‘กินเกาให้เมามันส์’ ยกขบวนเมนูเกาหลีแท้ ๆ ถึงเครื่องถึงรสความเกาหลีจัดเต็มกว่า 36 เมนู พร้อมความสนุกรับปีใหม่ ด้วยอาวุธลับใหม่สไตล์อากะ สำหรับการเฉลิมฉลองแบบเกาหลี ด้วย AKA Lemon Bomb หรือ มะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มสุดเกา! รับประกันความมันส์แบบเต็มรูปแบบ พร้อมเพลิดเพลินไปกับเพลงเกาหลีในร้านที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการปิ้งย่างไปอีกขั้นห
AKA K-Series ปักหมุดความอร่อยกับเมนูใหม่เอาใจสายเกา
  • เริ่มต้นที่ เครื่องเคียงสไตล์เกาหลีแบบไม่อั้น! อาทิ กิมจิ นามุรุผักโขม นามุรุถั่วงอก และยำแมงกระพรุน ที่ถูกเสิร์ฟใน ภาชนะใส่อาหาร ที่เป็นวัสดุสแตนเลสตามแบบฉบับของเกาหลี และมีน้ำจิ้มสูตรใหม่เสิร์ฟแบบ 3 ช่อง ประกอบด้วย สึเกะทาเระ (น้ำจิ้มซิกเนเจอร์ของอากะ), น้ำมันงาปรุงรส และน้ำจิ้มบาร์บีคิว
  • เมนูตามคำเรียกร้อง! ไส้หมูหมักกับซอสเผ็ด รสชาติหวานเผ็ด กินให้ฟินแบบไม่อั้น
  • ซัมกยอบซัล หมูสามชั้นย่างบนฟอยล์ หมูสามชั้นหมักซอสสไปซี่โกชูจัง ยกย่างทั้งฟอยล์ ผัดรวมกับกิมจิ นามุรุผักโขม และนามุรุถั่วงอก อร่อยครบรส เคี้ยวสนุกมันส์ทุกคำ
  • เกาหลีเกาใจไปกับซอสลูกแพร์ ราดบนหมูสันคอและหมูติดมัน กลิ่นหอมหวานรสชาติดีให้ฟิลเกาหลีสุด ๆ
  • พลาดไม่ได้กับ หมูและเนื้อพันต็อกบกกิซอสสไปซี่ เส้นต๊อกเหนียวนุ่ม เคี้ยวเพลินหนุบหนับมาพร้อมซอสสไปซี่เพิ่มความเกา รับรองฟินทุกคำ
  • เนื้อซี่โครงเต๋ากับสาหร่าย เนื้อซี่โครงเสิร์ฟแบบหั่นเต๋า ย่างสุกพอดี ห่อคู่กับสาหร่ายที่ผ่านความร้อนบนเตารับรองฟินสุดๆ
  • พร้อมเพิ่มรสชาติให้กับอาหารด้วย ‘ใบงาเกาหลี’  ที่ต้องนำใบงามาบังหน้า แล้วตามด้วยหมูหรือเนื้อ ตามด้วยกิมจิก็อร่อยเพิ่มขึ้นอีก และยำแมงกระพรุน เครื่องเครื่องที่เพิ่มความกรุบกรอบหวาน เผ็ด ให้ทุกคำ
  • จูม็อกบับ (ข้าวปั้นเกาหลี) ข้าวปั้นเกาหลี ขยำเอง คลุกผสมรวมกัน แล้วปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำ รสชาตินัว ๆ กลมกล่อม อร่อยออตอเค๊!
  • เมนูของหวาน ซูบักฮวาแซ (น้ำแข็งไสเกาหลี) เมนูสุดปังโด่งดังในโซเชียล สดชื่นด้วยสไปร์ทผสมนมสตรอเบอรี่ และผลไม้ เพิ่มความหวานได้แบบลงตัว
 
AKA K-Series สนุกแบบเมามันส์กับ AKA Lemon Bomb (มะนาวช็อตบอมบ์)
  • หนึ่งในวัฒนธรรมการดื่มแบบคนเกาหลี กับสูตรเด็ดโซแมกซ์ (Somaek) ที่ครีเอทขึ้นเฉพาะที่ร้าน AKA เท่านั้น กับ AKA Lemon Bomb หรือ มะนาวช็อตบอมบ์ โดยนำแก้วช็อตและตะเกียบวางบนแก้วโค้กหรือสไปร์ทสุดซ่าใบใหญ่ แล้วใช้ช้อนปัดจนแก้วร่วงลงก็ยกดื่มได้ทันที สร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นสีสันบนโต๊ะอาหารตามแบบซีรีย์ดังเลยทีเดียว (สำหรับ Meat Lover Buffet และ Regular Buffet สามารถสั่งซื้อมะนาวช็อตไม่อั้นเพิ่มในราคาเพียง 39++ บาท)
  • สร้างบรรยากาศที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการปิ้งย่างในแบบเกาหลีเกาใจให้ฟินขั้นสุด ทางร้านมีการเปลี่ยน เพลง ให้เป็นเพลงเกาหลีสนุก ๆ
คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เทรนด์ของอาหารเกาหลียังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแบรนด์ อากะ เป็นแบรนด์ที่พร้อมจะทำเรื่องสนุกเพื่อเป็นสีสันให้กับวงการร้านอาหารปิ้งย่าง และสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการนำจุดแข็งทั้งสองมุมนี้มาเจอกัน ด้วยการโปรโมทแคมเปญใหม่ ‘กินเกาให้เมามันส์’ ทั้งเมนูเกาหลีจัดเต็ม และวิถีการกินตามแบบเกาหลีแท้ ๆ รวมถึงการต่อยอดมะนาวช็อตที่เคยสร้างปรากฎการณ์ในแคมเปญ AKA Long shot ไปไม่นาน ถูกส่งต่อความสนุกมาถึงแคมเปญ K-Series ในวันนี้ กับ AKA Lemon Bomb หรือ มะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มสไตล์เกาหลี สุดมันส์ตบท้ายมื้อ รวมถึงวิธีการสื่อสารต่าง ๆ ก็ใช้ภาษาเกาหลีร่วม เพื่อเพิ่มเสน่ห์ความสนุกสไตล์เกาหลีและยังดึงดูดสายเกาทั้งหลายให้รู้สึกมีส่วนร่วมกับแคมเปญได้อีกด้วย ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้สามารถเติมเต็มความเป็นเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์ หวังว่าลูกค้าจะเข้ามากินเกาได้แบบเมามันส์ ตามคอนเซปท์ของแบรนด์ที่วางไว้”

เตรียมตัวมาฉลองปีใหม่แบบเกาหลีกับเมนูปิ้งย่างที่ถึงรสถึงเครื่องแบบฉบับเกาหลีแท้ ๆ งานนี้ใครขึ้นชื่อว่าสายเกาตัวจริงต้องไม่พลาด อากะ ขอท้าให้มาลองพิสูจน์ความเกาในแคมเปญ ‘กินเกาให้เมามันส์’ ได้ตั้งแต่ 8 ธันวาคม 2566 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ร้านอากะทุกสาขาทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/akarestaurant หรือ Line @ZENGroupTH 
9 พฤศจิกายน 2566
ตลาดปิ้งย่างสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ กับปรากฏการณ์ครั้งแรกของแบรนด์ ‘อากะ’ ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ ในแคมเปญฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาววววววว’ ต่อยอดมะนาวช็อต ตบท้ายมื้อปิ้งย่าง สู่ Product Killer ‘AKA LONG SHOT ดึงลูกค้าเข้าร้าน เผยหลังเปิดตัวแคมเปญได้เพียงเดือนเดียว ยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่เกิดจากเสียงของผู้บริโภค (Voice of Customer) ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างล้นหลาม และยังสามารถสร้าง Earned Media มูลค่าสูงถึง 280 ล้านบาท ได้แบบถล่มทลายทั่วโซเชียลโดย Real Consumer ที่ทรงพลังที่สุด จนทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นกว่า 200% ผ่านการสำรวจด้วย Social Listening 

คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แบรนด์ อากะ อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง มีแบรนด์คู่แข่งที่มีความแข็งแรง ส่งผลให้ทีมการตลาดทำงานกันอย่างหนัก เพื่อสร้าง Brand Differentiation เพิ่มความโดดเด่นเหนือคู่แข่งให้ได้มากที่สุด จนเป็นที่มาของแคมเปญที่เกิดจากเสียงผู้บริโภคอย่างแท้จริงในครั้งนี้

‘กลยุทธ์พลิกท่า ที่เปลี่ยน Journey ใหม่ในร้าน จากเมนูมะนาวช็อตปิดท้ายมื้อ สู่ AKA LONG SHOT สร้างโมเม้นท์ให้ Enjoy ตลอดทั้งมื้อ แถมยังนำกลับบ้านได้ด้วย’

“โดยเริ่มจากการทำ Research กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นแฟนตัวยงของแบรนด์อากะ ผลสำรวจพบว่า กลุ่มลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพวัตถุดิบ และชื่นชอบเมนูในร้านที่หลากหลาย ทั้งพอร์คชอปซอสอากะ, หมูสามชั้นซอสสไปซี่โกชูจัง, เบคอนเนื้อ AUS, กุ้งแม่น้ำ, เนื้อฮิระนิกุ และเมนูอื่น ๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจทั้ง 100% ของกลุ่มลูกค้า ยกให้มะนาวช็อตเป็นเมนู Killer Item ที่ต้องสั่งหลังจบมื้อทุกครั้ง ผนวกกับการทำ Consumer Observation ในกลุ่มคนรักบุฟเฟ่ต์ และการใช้ Social Listening Tools ก็ได้รับเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภคที่อยากให้แบรนด์อากะขายมะนาวช็อต และขยายไซส์ให้ใหญ่สะใจกว่าเดิมด้วย

ทั้งหมดนี้ได้ต่อยอดสู่ Product ‘AKA Long Shot’ มะนาวลองช็อต จุกสะใจ ซึ่งลูกค้าก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาไปพร้อมกับแบรนด์ด้วย โดยยังคงมี Brand Essence ที่ชูคาแรคเตอร์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน เต็มไปด้วยความสนุก และความครีเอทีฟ ผ่านการดีไซน์แพคเกจจิ้งที่มีรูปลักษณ์ที่ใครเห็นต้องสตั๊น แถมยังสามารถแก้ไข Pain Point ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ จนสามารถสร้าง Engagement ได้ทั้ง Online ที่มีการพูดถึงแบบถล่มทลายบนโซเชียล และ Offline ดึงลูกค้าเข้าร้าน กระตุ้นยอดขายได้แบบพุ่งทะยาน เกินเป้าที่คาดหวังไว้เลยทีเดียว” คุณมยุรี กล่าวเพิ่มเติม
นี่เป็นการฉลองครบรอบ 16 ปี ของแบรนด์ อากะ ที่สมศักดิ์ศรี ทั้งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ โมเม้นท์ความสนุกในมื้อปิ้งย่าง นอกจากเมนูไฮไลท์ AKA Long Shot และยังมีอีก 7 เมนูใหม่ ทั้งเบคอนเนื้อ AUS ยาว (เบคอนเนื้อในไห), เบคอนหมูยาวซอสเมเปิ้ล, หนวดปลาหมึกยักษ์ซอสอากะ, เนื้อติดมันพันชีสยืด, กุ้งเนยกระเทียมชีสยาว, ฮอตดอกซอสสไปซี่ และราเมนเย็น มาตอกย้ำความยืด ความยาว อิ่ม จุก แบบจัดเต็ม พร้อมด้วยการงัดกลยุทธ์ไม้เด็ด ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบความคุ้มค่า ด้วยการตั้งราคาที่สะใจมากยิ่งขึ้น เพียง 316++ บาท ตลอดทั้งแคมเปญ ถึง 19 พฤศจิกายน 2566 นี้เท่านั้น

ความสนุกยังไม่สุด! อากะ สร้างแรงกระเพื่อมให้กับผู้บริโภคอีกระลอก ด้วยการครีเอทกิจกรรม ชวนเล่นใหญ่ จัด AKA LONG SHOT CHALLENGE #อากะล่าตัวจี๊ดเปรี๊ยวซี๊ดถึงใจ แค่ถ่ายคลิปสุดจี๊ดในสไตล์คุณลง TikTok พร้อมติด #อากะล่าตัวจี๊ดเปรี๊ยวซี๊ดถึงใจ #AKALONGSHOTCHALLENGE รับส่วนลด 100 บาททันที และยังมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรับ E-Voucher กว่า 20,000 บาทอีกด้วย ระยะเวลาร่วมสนุกกิจกรรม ตั้งแต่ 10 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2566 ประกาศผลผ่าน TikTok AKA Japanese Restaurant ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566
“ทั้งนี้ทางแบรนด์ อากะ ก็จะยังคงรักษามาตรฐานในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และเราจะเป็นแบรนด์ที่พร้อมรับฟังเสียงของผู้บริโภค เพื่อมาต่อยอด Product ที่เกิดจาก Insight ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และมั่นใจว่าแคมเปญต่อไปก็จะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนแคมเปญฉลองครบรอบ 16 ปี ‘ความจุกที่ยืดยาว’ นี้ เช่นเดียวกัน” คุณมยุรี กล่าวทิ้งท้าย

จากความสำเร็จของแคมเปญที่เกิดขึ้น ไม่แน่ว่าช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่ใกล้จะถึงนี้ ทางแบรนด์ อากะ ก็คงไม่พลาดที่
จะมอบเซอร์ไพรส์สนุก ๆ กันแบบต่อเนื่อง ผ่าน AKA LONG SHOT แต่จะเป็นรูปแบบไหน รสชาติอะไรนั้น ต้องรอติดตามทาง https://www.facebook.com/akarestaurant หรือ Line @ZENGroupTH แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้
 
9 พฤศจิกายน 2566
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG) จนได้รับการประเมินติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้มีการประกาศผลในรูปแบบเรตติ้ง โดยทาง เซ็น กรุ๊ป ได้รับผลประเมินเป็น ‘หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2566’ และผลรวมการประเมินที่ได้รับคะแนนรวมเพิ่มมากขึ้นในทุกปี สอดรับกับปรัชญาขององค์กร (Brand Philosophy) ที่ว่า ‘Goodness to Growth : เจตนารมณ์ที่ดี นำมาซึ่งการเติบโตอย่างยั่งยืน’ ด้วยเช่นกัน
 
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นยั่งยืน ได้ที่ www.setsustainability.com/ESG-ratings
8 กันยายน 2566
เซ็น กรุ๊ป เดินหน้าขยายสาขา ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ปักหมุดบนทำเลเมืองท่องเที่ยว พัทยา ภูเก็ต สมุย และหัวหิน ลุยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย มั่นใจครึ่งปีหลังการขยายสาขานี้จะช่วยผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 10 – 15% 

คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยล่าสุด คาดภาพรวมตลาดร้านอาหารมีมูลค่าประมาณ 4.35 แสนล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 7.1 จากปี 2565 โดยมีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวที่ส่งสัญญาณบวกฟื้นตัว สอดคล้องกับนโยบายของทางภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ ประกอบกับข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในช่วงครึ่งปีแรกสถานการณ์การท่องเที่ยวมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทย ยอดสะสมตั้งแต่ มกราคม – กรกฎาคม 2566 สูงกว่า 37 ล้านคน และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตได้ดีขึ้นอีก 
ทั้งนี้ทางเซ็น กรุ๊ป มองเห็นถึงทิศทางการเติบโตและโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ พร้อมปรับกลยุทธ์เล็งเป้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว เลือกทำเลขยายสาขาบนพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายยอดนิยมอย่าง พัทยา ภูเก็ต สมุย และหัวหิน”

ส่วนแผนการขยายสาขา เฉพาะสาขาที่ลงทุนเอง ของเครือเซ็น กรุ๊ป ได้แก่
  • ‘พัทยา’ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี กว่า 5 ล้านคน ในขณะที่อัตราตัวเลขยอดทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา เพิ่มขึ้นกว่า 80% จากปีก่อน ซึ่งมีกลุ่มที่ยังคงครองอันดับ 1 คือชาวไต้หวัน 35% รองลงมาคือ ชาวจีน 30% ตามด้วยชาวฮ่องกง 9% และ
    อื่น ๆ ทั้งหมดนี้เป็นข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าแลนมาร์คแห่งนี้ยังคงเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างดี สอดคล้องกับแผนในขยายสาขาของเครือเซ็น กรุ๊ป ผลักดันการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการลงทุนขยายสาขาของ 5 แบรนด์ในเครือ คือ De Tummour, ZEN Restaurant, AKA Yakiniku, On the Table และ Din’s สู่ทัวร์ริสต์มอลล์ อย่าง ‘ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา’ โดยเริ่มจาก De Tummour และ On the Table ที่เปิดสาขาในเดือนกันยายนนี้ และอีก 3 
    แบรนด์ ที่จะทยอยเปิดสาขาในเดือนธันวาคมนี้
  • ‘ภูเก็ต’ กับแบรนด์ ZEN Restaurant ที่ได้เปิดสาขาที่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะที่มี ZEN Restaurant และ On the Table สาขา เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า, ZEN Restaurant และ AKA Yakiniku เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต อยู่แล้ว คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมที่มียอดสะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตสูงกว่า 4 ล้านคน 
  • ‘สมุย’ ยังคงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอันดับต้น ๆ อ้างอิงจากยอดสะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานีกว่า 1.5 ล้านคน โดยมีแบรนด์ On the Table เปิดสาขาที่เซ็นทรัล สมุย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  
  • ‘หัวหิน’ เมืองที่ได้รับความสนใจทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง ปักหมุดหมายที่แบรนด์ AKA Yakiniku บนศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน ที่เปิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่หรือคนในพื้นที่ที่ชื่นชอบการทานปิ้งย่างและความคุ้มค่า
“การต่อยอดการเติบโตของธุรกิจอาหารของ เซ็น กรุ๊ป ผ่านแบรนด์ในเครือที่รุกขยายสาขาบนเมืองท่องเที่ยวทั้ง 4 จังหวัด พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทย คาดว่าภายในสิ้นปี 66 นี้ สาขาในเมืองท่องเที่ยวนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตได้เพิ่มอีกกว่า 10 - 15%” คุณบุญยง กล่าวทิ้งท้าย