TH
ข่าวสารล่าสุด
Zen Group จับมือ KoLao ขยายอาณาจักรร้านอาหารสู่ประเทศลาว เตรียมเปิด 4 แบรนด์ดังที่ Mega Mall เวียงจันทน์
เซ็น กรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ โดยล่าสุดจับมือกับ KoLao เพื่อเสริมแกร่งการเติบโตใน สปป.ลาว ผ่านการนำ 4 แบรนด์ร้านอาหารคุณภาพสู่ Mega Mall เวียงจันทน์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายแฟรนไชส์ในภูมิภาค พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความต้องการสูงในเรื่องรสชาติและคุณภาพอาหาร

เซ็น กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจร้านอาหารชั้นนำของประเทศไทยที่มีพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมตั้งแต่ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมจนถึงร้านอาหารแนว Casual Dining นำโดย คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป Mr.Jakkapong Wangtaphun ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Grandview Property ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Kolao Group จัดพิธีลงนามสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์กับ บริษัท KoLao ผู้นำธุรกิจใน สปป.ลาว

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาที่ Kolao Tower เวียนเทียน สปป.ลาว เพื่อขยาย 4 แบรนด์ยอดนิยมเข้าสู่ตลาดลาว ได้แก่ ZEN ร้านอาหารญี่ปุ่นที่คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพเยี่ยมและปรุงอย่างพิถีพิถัน, On the Table โตเกียวคาเฟ่ที่นำเสนออาหารนานาชาติฟิวชัน ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์, ลาวญวน ร้านอาหารสไตล์อินโดไชน่าที่ผสานรสชาติหลากหลายจากภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และ เขียง ร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ดรสจัดจ้านหอมกลิ่นกระทะ ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนความเชี่ยวชาญและมาตรฐานคุณภาพของเซ็น กรุ๊ป ในการนำแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจแก่ผู้บริโภคในลาวโดยทั้ง 4 แบรนด์; ZEN, On the Table, ลาวญวน และ เขียง เตรียมเปิดสาขาแรกที่ Mega Mall เวียงจันทน์ในไตรมาส 4 ปี 2025 ก่อนเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติมในช่วงปี 2026–2027 รวม ZEN 3 สาขา, On the Table 3 สาขา, เขียง 10 สาขา และ ลาวญวน 3 สาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและต่อยอดการเติบโตของตลาดอาหารใน สปป.ลาวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เซ็น กรุ๊ป เริ่มบุกตลาดลาวครั้งแรกในปี 2013 ด้วยการเปิดร้าน “ตำมั่ว” สาขาเวียงจันทน์ ณ โรงแรมซีซั่น ริเวอร์ไซด์ ร่วมกับนักธุรกิจชั้นนำชาวลาว ก่อนต่อยอดสู่ความร่วมมือกับ KoLao และลงนามสัญญาแฟรนไชส์ร้าน “เขียง” รวม 10 สาขา ซึ่งได้ทยอยเปิดให้บริการแล้ว อาทิ สาขาหนองบอน (16 กันยายน 2024), สาขาสีวิไล (29 พฤศจิกายน 2024), สาขาโพนสีนวน (10 ธันวาคม 2024) และสาขาเมืองน้อย (25 กุมภาพันธ์ 2025) พร้อมอีก 6 สาขาที่เตรียมเปิดภายในไตรมาส 1 ปี 2026
 
ศักยภาพตลาดแฟรนไชส์ในลาว
ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มจากประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมสูงในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน อันเป็นผลจากวัฒนธรรมการบริโภคที่ใกล้เคียงกัน ความนิยมในรสชาติอาหารไทย และภาพลักษณ์ของอาหารไทยที่มีความพิถีพิถัน สดใหม่ และหลากหลายรสชาติ ทำให้ผู้บริโภคในประเทศอย่าง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ต่างให้ความสนใจและเปิดรับแบรนด์อาหารจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้แนวโน้มการลงทุนแฟรนไชส์ในลาวมีทิศทางที่ดีและมีศักยภาพขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดสู่การขยายตลาดไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคได้อย่างแข็งแกร่ง

การขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
นอกเหนือจากการรุกตลาดลาว แบรนด์ “เขียง” ร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ด ยังได้ขยายสู่ประเทศฟิลิปปินส์แล้ว 2 สาขา ได้แก่ SM Fairview และ Poblacion Makati ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่เปิดให้บริการ พร้อมแผนขยายเพิ่มอีก 3 สาขาภายในปีนี้ ทั้งยังมีนักลงทุนในฟิลิปปินส์ให้ความสนใจต่อการลงทุนในแบรนด์อื่น ๆ ของ Zen Group อีกด้วย
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป กล่าวว่า “การร่วมมือกับ KoLao ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Zen Group ในการนำแบรนด์ร้านอาหารที่เราภาคภูมิใจสู่ตลาดต่างประเทศ เราเชื่อว่าความหลากหลายของแบรนด์ในเครือ และมาตรฐานคุณภาพของเซ็น กรุ๊ปจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจให้กับผู้บริโภคในลาวได้”
########
28 สิงหาคม 2568
อ่านเพิ่มเติม
"เซ็น กรุ๊ป" เดินหน้าส่งต่อความอิ่มใจ สู่ผู้หญิงแกร่ง ผ่านแคมเปญ "ZEN ปันอิ่ม ปันสุข" รับวันแม่แห่งชาติ
7 สิงหาคม 2568
อ่านเพิ่มเติม
"ZEN ปันอิ่ม ปันสุข" ส่งความสุขปักหมุดที่ รร.บ้านแก้งขิงแคง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ตอกย้ำแนวคิด ของอร่อย...ต้องแบ่งปัน!
16 พฤษภาคม 2568
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น กรุ๊ป ดึงอินไซต์ลูกค้า สร้าง Emotional Marketing คิกออฟแคมเปญส่งท้ายปี ครีเอทโมเม้นต์ความสุขผ่านมื้ออาหาร
4 ธันวาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
ตำมั่ว - ลาวญวน x ชงดี ชูกลยุทธ์ Local Collaboration + ESG ดึงเสน่ห์โลคัลหนุนวงการแบรนด์คนไทย รวมตัวกันเพื่อยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่น สู่ผู้นำตลาดร้านอาหารไทยแบบยั่งยืน
11 กันยายน 2567
อ่านเพิ่มเติม
25 พฤษภาคม 2566
บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2566 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 913 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิทั้งกลุ่มบริษัทรวม 38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 374% จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจร้านอาหารที่เป็นจิ๊กซอว์ตัวใหญ่ที่สุดของบริษัท ยังคงครองแชมป์การเติบโตเป็นอันดับหนึ่ง และธุรกิจค้าปลีกที่ติดสปีดการเติบโตรองลงมา

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชีบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2566 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเศรษฐกิจไทยที่กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เริ่มมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการวางแผนธุรกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตของสาขาเดิม พร้อมการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการสร้างการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 913 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน” 

โดยบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอาหารที่เพิ่มขึ้น 41% เป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ออกมารับประทานอาหารภายนอกบ้านมากขึ้น ประกอบกับการขยายสาขาใหม่ในระหว่างไตรมาส 3-4 ของปี 2565 ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้เติบโตมากขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งยังมีรายได้จากธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้น 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 
มาจากรายได้ของบริษัท คิง มารีน ฟู้ดส์ จำกัด ที่บริษัทเข้าลงทุน 51% ในเดือนมีนาคม 2565ทำให้ในปี 2566 บริษัทรับรู้รายได้เต็มไตรมาส
ขณะเดียวกันในไตรมาส 1 ของปี 2566 บริษัทขยายสาขาใหม่กว่า 5 สาขา เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 2 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 3 สาขา 
 

“นอกจากนี้ทางบริษัทก็ยังคงให้ความสำคัญกับการทำการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค สื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของแต่ละแบรนด์ในเครือ พร้อมติดเครื่องเร่งสปีดดันยอดให้ได้ตามเป้ากันตั้งแต่ต้นปี คาด Q2 ปี 2566 เติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน” คุณยุพาพรรณ กล่าวทิ้งท้าย


 
15 มีนาคม 2566

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานไตรมาส 4/2565 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 946 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3,413 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 154 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 4 ปี 2565 รายได้ของบริษัทรวมทั้งสิ้น 946 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้ธุรกิจร้านอาหาร จากการฟื้นตัวของธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อีกทั้งยังมีการขยายสาขาใหม่โดยเฉพาะสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ รวมถึงการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าและการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจากความพยายามของบริษัทในการปรับโมเดลธุรกิจ ซึ่งในปีนี้ได้เข้าลงทุนในบริษัท คิง มารีน ฟู้ดส์ จำกัด ช่วยผลักดันให้รายได้ธุรกิจอาหารค้าปลีกของบริษัทเติบโตขึ้นมาก ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3,413 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,158 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 154 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 92 ล้านบาทในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้น 245 ล้านบาท และนับเป็นผลประกอบการที่บริษัททำได้สูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา ตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19”

คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2565 บริษัทได้โฟกัสที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ธุรกิจร้านอาหารของสาขาเดิมของบริษัท +25.5% โดยเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 928 ล้านบาท หรือ 59% หลังการปลดข้อจำกัดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่บนทำเลที่มีศักยภาพ

ซึ่งในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวน 18 สาขา เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 9 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 9 สาขา หากนับรวมทั้งปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 45 สาขา เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 25 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 20 สาขา ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีจำนวนสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 345 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 155 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 190 สาขา หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45:55”

“ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจกว่า 32 ปี ปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งมีการขยายสาขาของแต่ละแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งสาขาที่ลงทุนเองและแฟรนไชส์ เพื่อให้ครอบคลุมในไทยและต่างประเทศ โดยในปี 2566 นี้ ทางบริษัทก็ยังคงเน้นการทำรายได้และกำไรของสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน การปรับโมเดลธุรกิจให้กระชับ ทันสมัย พร้อมทั้งการขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ภายในปี 66 รวมถึงความพร้อมของการบริหารจัดการร้านอาหาร ต่อยอดการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเข้ามาเพื่อช่วยพัฒนาระบบภายในร้าน และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Robot, QR Ordering/Payment, Cashless ให้รองรับการใช้งานกับทุกร้าน และทุกสาขาในเครือทั้งหมด เพื่อเตรียมรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยความมั่นคงและยั่งยืน

อีกทั้งยังได้มีการเน้นการทำการตลาดที่เผ็ดร้อน ตั้งเป้าขยาย Customer Base ให้กว้างขึ้นในทุกมิติ ด้วยการใช้กลยุทธ์ Insightful Marketing ที่จะต้องเข้าใจความต้องการที่ซ่อนอยู่ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และสร้างกระแสที่สนุกสนานให้กับวงการตลอดทั้งปี” คุณบุญยง กล่าวทิ้งท้าย
 

22 กุมภาพันธ์ 2566
ในยุคแห่ง Toxic Productivity ความขยัน กลับมาทำร้ายคนทำงาน Work ไร้ บาลานซ์ กินข้าวไปทำงานไปหน้าจอคอม ติดโต๊ะทำงาน ยิ่งหลังยุคโควิด การสั่งเดลิเวอรี่ข้าวมากินกลายเป็น New Normal แต่จากงานวิจัย Harvard Health Publishing พบว่า 51% ของพนักงานที่ได้ออกไปกินข้าวกลางวันข้างนอก รู้สึกมีพลังโฟกัส กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มความ ‘Productive’ ในการทำงาน

คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะที่ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN Restaurant) เป็นตัวแทนมื้ออาหารที่ยืนหนึ่งเรื่องคุณภาพ และความพิถีพิถันมายาวนานกว่า 32 ปี พร้อมด้วยความต้องการที่จะอยากส่งมอบประสบการณ์ที่ตรงใจที่สุด ในปีนี้ทางแบรนด์มุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในวัยทำงาน โดยดึง Customer Insight จากกลุ่ม Millennials หรือ Gen Y ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ส่วนมากต้องพบเจอกับปริมาณงานที่หนักหน่วงในแต่ละวัน จนอาจเกิดการ Burnout หรือที่เรียกว่า หมดไฟในการทำงาน

ในส่วนนี้ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2023 ทำให้หันมาให้ความสำคัญกับการสร้าง สุขภาพกาย-สุขภาพใจที่ดี และหลายต่อหลายคนพยายามมองหาผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งมื้ออาหารที่จะช่วยลดความเครียดได้ในช่วงพักกลางวันที่มีเวลาจำกัด ทางแบรนด์จึงได้ไอเดียใหม่ เพื่อกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายอย่างจริงจัง ด้วยการปักหมุด Lunch Destination #เที่ยงนี้ที่ZEN ครีเอทเมนูชุดอาหารกลางวัน LUNCH SET ที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสดใหม่ แหล่งที่มาของวัตถุดิบชั้นเลิศ และการปรุงอาหารตามหลักของญี่ปุ่นแท้ ๆ พร้อมเสิร์ฟให้ทานง่าย ตอกย้ำการเป็น Top of Mind ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

และถึงแม้ว่าจะมี LUNCH SET ที่ช่วยให้มื้อเที่ยงสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ทางแบรนด์ก็ยังอยากช่วยแก้ไข Pain Point ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก โดยการต่อยอดสู่การสร้าง Movement #WorkLunchBalance ผ่านข้าวหน้าบอส ที่ทำขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน ชวน Big Boss ทั้งหลาย ทุกสาขาธุรกิจทั่วประเทศ มาร่วมสนับสนุนให้พนักงานในบริษัท ปิดจอคอมออกไปพักกินข้าวกลางวันข้างนอก รณรงค์ให้กลายเป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพ เพื่อกลับมาทำงานต่อได้ดี… มีคุณภาพยิ่งกว่าเดิม”

ไม่ว่าจะเป็น ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม บอสผู้รันวงการคอนเสิร์ต Big Mountain มันส์สุดใจ, บอสโอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน จากโคตรคูล ที่กระโดดมาทำรายการไหนก็ปังทั้งช่อง, บอสเคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บก. หนุ่มไฟแรงแห่ง The Standard, บอสท๊อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา พ่อทัพแห่ง Bitkub Group, บอสแพม-สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล แห่ง OH! RiCH และบิ๊กบอสอีกมากมายหลากหลายวงการ

ZEN LUNCH SET เมนูที่เลือกได้ แบ่งเป็น 3 เซ็ต VALUE SET คุ้มได้จุกๆ กับปริมาณที่เลือกได้ ทั้ง Size M หรือ L, DUO SET สุดคุ้ม กับ 2 วัตถุดิบในเซ็ตเดียว และ MENRUI & APPETIZER คุ้มกับรสชาติอุ่นๆ กับเมนูเส้นและจานเคียง ตอบโจทย์ทุกความชอบ รวมกว่า 20 เมนู จะเลือกแบบอัพไซส์ หรือจับคู่ ปลา เนื้อ หมู ไก่ ย่าง เส้น มาพร้อมของหวานและเครื่องดื่ม จัดให้แบบจุกๆ ทั้งคุณภาพ รสชาติและปริมาณ เรียกได้ว่าอิ่มคุ้มในชุดเดียว ราคาเริ่มต้นเพียง 
185 บาท วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 11.00-15.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อสนับสนุนให้มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายได้ออกมาพักทานกลางวันอย่างมีคุณภาพที่ร้านนอกออฟฟิศ

ว่าแล้วก็ปิดคอม.. ออกไปพักกลางวันกันให้มีคุณภาพกัน
#WorkLunchBalance #เที่ยงนี้ที่ZEN 
ติดตามข่าวสารและโปรโมชันได้ที่  https://www.facebook.com/Zenjapaneserestaurant
 
2 พฤศจิกายน 2565

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารของประเทศไทย นำโดย คุณบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ประจำปี 2565 ต่อเนื่องปีที่ 2 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยในปีนี้ เซ็น กรุ๊ป ได้รับคะแนนการประเมินสูงถึง 96% สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาศักยภาพของการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยึดมั่นปฏิบัติตามนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ขับเคลื่อนความยั่งยืน ควบคู่กับการดำเนินงานของบริษัทที่ครอบคลุมมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน  
 

3 ตุลาคม 2565
On the Table ร้านอาหาร Tokyo Café สไตล์ฟิวชั่น ในเครือ เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ร่วมเดินหน้าตอกย้ำปณิธานในการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่สอดคล้องกับ ESG ต่อยอดสู่โครงการ ‘Silent Talented’ สร้างโอกาสแก่ผู้พิการทางการได้ยิน ให้พวกเขาได้โชว์ศักยภาพในการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ  

คุณชิตพล วิวัฒนาเกษม รองประธานเจ้าหน้าที่บริการกลุ่มทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “ทางบริษัทเชื่อว่าการสร้างโอกาสให้ผู้พิการได้ทำงานที่เหมาะสม จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้พิการและครอบครัว รวมถึงช่วยยกระดับสภาพสังคมโดยรวม ซึ่งทางบริษัทได้เริ่มโครงการให้ผู้พิการเข้าร่วมทำงานเป็นส่วนหนึ่งของ เซ็น กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 2020 โดยจัดสรรให้พนักงานผู้พิการทางการได้ยินร่วมทำงานในร้าน On the Table ในตำแหน่งที่เหมาะสม อาทิ พนักงานบาร์เครื่องดื่มและของหวาน ผู้ช่วยเชฟ เป็นต้น โดยทางบริษัทจัดให้พนักงานผู้พิการทางการได้ยินได้รับสวัสดิการเทียบเท่าพนักงานอื่น ๆ และปรับกระบวนการพัฒนาฝึกอบรมให้มีความเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานผู้พิการจะมีความสามารถในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานของร้าน ซึ่งจากพนักงานผู้พิการทุกคนที่ร่วมงานกับเรามีความตั้งใจและฝีมือไม่น้อยไปกว่าพนักงานอื่น ๆ”

Silent Talented เป็นโครงการที่จัดทำขึ้น เพื่อสนับสนุนและชื่นชมพนักงานผู้พิการทางการได้ยินที่ตั้งใจปฏิบัติงานและพัฒนาตนเอง เป็นตัวอย่างที่ดีและกระตุ้นพนักงานคนอื่น ๆ โดยปกติพวกเขาเหล่านี้มักได้รับคำชื่นชมจากหัวหน้างานและเพื่อนพนักงานคนอื่น ๆ ในร้านด้วยกันมาตลอด พวกเขาเต็มใจที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ รวมถึงการมีทัศนคติที่ดี และมีทักษะในการทำงานด้วย”

คุณจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางบริษัทมีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนในองค์กรรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังเพื่อการขับเคลื่อนสังคมด้วยความเสมอภาค โดยเฉพาะในเรื่องการให้โอกาสผู้พิการทางการได้ยินได้โชว์ศักยภาพในการทำงานของตัวเองและพัฒนาคุณภาพชีวิตไปพร้อม ๆ กับการเติบโตขององค์กร และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าทุกท่านที่มาร้าน On the Table จะได้รับความประทับใจในมื้ออาหารที่น้อง ๆ พนักงานของเราทุกคนตั้งใจให้บริการ”

ชมคลิปสัมภาษณ์พิเศษน้องอร พนักงานผู้พิการทางการได้ยิน ประจำตำแหน่ง พนักงานบาร์เครื่องดื่ม : https://www.facebook.com/OntheTableTokyoCafe/videos/782308986316928/?extid=NS-UNK-UNK-UNK-IOS_GK0T-GK1C

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/OntheTableTokyoCafe/ 
หรือ Line @ZENGroupTH 
27 กันยายน 2565
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงานอีเว้นท์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของร้าน TETSU (เทสสึ) ตลอด 5 วันที่จัดงาน เต็มไปด้วยบรรยากาศการรวมตัวของกลุ่มคนรักเนื้อพรีเมียมและหลงใหลในการปรุงรสชาติของเมนูเนื้อที่เป็นเสน่ห์ของเชฟ “เคนทาโร่ นากาฮาระ” สุดยอดเชฟระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่น โดยงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเสิร์ฟคอร์สโอมากาเสะ ยากินิกุระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่เรียกได้ว่าเป็นการเสิร์ฟประสบการณ์ความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ ผ่านมื้ออาหารสุดพิเศษที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ลิ้มลองภายในงาน ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ The Only Time of the Year with Legendary Chef “KENTARO NAKAHARA” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เชฟ เคนทาโร่ นากาฮาระ เจ้าของร้าน Sumibi Yakiniku Nakahara ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ด้วยความตั้งใจของผมที่อยากให้คนทั่วโลกได้รู้จักความเป็นยากินิกุที่แท้จริง และร้านเทสสึก็มีความตั้งใจในแบบเดียวกัน จนเกิดเป็นอีเว้นท์พิเศษเป็นครั้งที่ 2 แบบต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อมกับความพิเศษในทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรเนื้อคุณภาพ การปรุงรสด้วยซอส และการย่างเนื้อด้วยถ่านชาโคล ทุกอย่างนี้พอนำมารวมกันคือทั้งหมดของความเป็น “นากาฮาระ” เสน่ห์ที่เกิดจากความพิถีพิถันในการควบคุมทั้ง 3 อย่างให้สมดุลกัน ยิ่งทำให้เนื้อย่างได้รสชาติความอร่อยมากขึ้น โดยที่ร้านเทสสึก็เป็นรูปแบบการย่างด้วยถ่านเหมือนกับร้านของผมที่ญี่ปุ่น รวมถึงการแล่เนื้อและการปรุงรสที่ผมเป็นคนทำเพียงคนเดียว ทำให้ลูกค้าที่ได้มาลิ้มลองรสชาติที่อีเว้นท์ในครั้งนี้ จะได้รับรสชาติเสมือนได้ไปรับประทานถึงที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว”


15 คอร์สโอมากาเสะ ยากินิกุระดับพรีเมียมที่เชฟ “เคนทาโร่ นากาฮาระ” ตั้งใจรังสรรค์เพื่อแฟนคลับชาวไทยโดยเฉพาะ ถือได้ว่าสมกับดีกรีคราฟท์แมนคนแรกและเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยากินิกุ โดยในทุกเมนูจะมีทีมงานของเชฟเป็นผู้ย่างเนื้อให้ เพื่อรักษาความสมดุลในทุกองค์ประกอบ เพื่อทำให้เนื้อมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น 

เริ่มเปิดรสสัมผัสแรกด้วย เมนู ยุกเกะ (Yukhoe - Korean-Style Steak Tartare) รสชาติของเนื้อวากิวสีแดงแบบดิบ หั่นเป็นเส้นยาวเท่า ๆ กัน คลุกเคล้าซอสที่หอมน้ำมันงา ให้รสชาติที่มีมิติทั้งหวาน เค็มมัน 

ไฮไลท์เด็ดของวันนี้คือ วากิว คัตสึ แซนวิช (Original Wagyu Katsu Sandwich) เมนูที่รังสรรค์ 4 ประสาทสัมผัสได้ครบทุกองค์ประกอบ เป็นแซนวิชที่นำเนื้อวากิวชิ้นหนาไปทอด สุกระดับ Medium-rare ทำให้เนื้อสัมผัสมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ ส่งกลิ่นหอมและหน้าตาของเนื้อที่ยั่วยวน น่ารับประทาน นำมาประกบด้วยขนมปังที่มีความกรอบกำลังพอดี เมื่อได้ลิ้มลองจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนของเนื้อ และรสชาติที่หวาน กลมกล่อม จากซอสสูตรพิเศษของเชฟอีกด้วย

กิวตัน (Thin Slice Tongue) ลิ้นวัวแล่บาง นำมาปรุงรสชาติด้วยเกลือ เมื่อนำไปย่างบนเตาถ่านจะดึงเอารสชาติของลิ้นวัวออกมาพร้อมกับไขมัน เนื้อสัมผัสนุ่มเด้ง และมีรสชาติเฉพาะตัว

เซอร์ลอย (Sirloin) เนื้อคุณภาพพรีเมียมนำมาแล่เป็นแผ่นบาง ๆ ปรุงด้วยซอสสูตรเฉพาะของเชฟจัดวางพาดบนไม้ไผ่ที่เป็นซิกเนเจอร์ เวลาได้ย่างบนเตาถ่านจะได้กลิ่นหอมของเนื้ออย่างชัดเจน พร้อมกับเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม 

คาตะซังคากุ (Katasankaku - Bolar Blade) เนื้อส่วนหัวไหล่อยู่ติดกับช่วงคอเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อหลายชั้น แต่กลับมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มจนน่าตกใจ โดยเชฟใช้วิธีปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้คงรสชาติและกลิ่นของเนื้อไว้ได้อย่างชัดเจน

อิชิโบะ (Ichibo – Culotte) เนื้อสันสะโพก ส่วนที่มีความอ่อนนุ่มและมีความหวานในตัวเนื้อ นำไปย่างแล้วจะได้เนื้อสัมผัสที่มีความชุ่มฉ่ำและรสชาติที่กลมกล่อม เชฟแล่เนื้อให้มีความหนาเล็กน้อย เพื่อให้ยังได้เคี้ยวและดื่มด่ำกับรสชาติของเนื้อวัวอย่างเต็มที่

มิสุจิ (Misuji - Oyster blade) เนื้อใบพายที่มีไขมันแทรกอยู่ทั่วเนื้อ ทำให้เนื้อส่วนนี้มีความนุ่มเป็นพิเศษ ผสมผสานกับซอสของเชฟที่มีความหวาน นำมาย่างให้สุกพอดีจึงได้ความหอมของมันเนื้อวัวที่แทรกอยู่อย่างเต็มพิกัด และได้ความนุ่มระดับละลายในปาก

รัมป์ (Rump) เนื้อส่วนสะโพกที่มีเอกลักษณ์ ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มและแน่น เพราะเป็นส่วนเนื้อที่มีมันอยู่บริเวณด้านนอก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเนื้อ น่าจะชอบเนื้อสัมผัสของเนื้อส่วนนี้อย่างแน่นอน

ชินทะมะ 2 ส่วน (Shintama – A selection of Knuckle) เนื้อช่วงโคนขาหลังตรงสะโพก ก้อนใหญ่ เนื้อนุ่ม ไม่มีมันแทรก เชฟเลือกเนื้อส่วนนี้นำมาชูความโดดเด่นของเนื้อด้วยเกลือ เผยรสชาติที่แท้ของเนื้อคุณภาพพรีเมียมที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี และเนื้ออีกส่วนที่ถูกปรุงรสด้วยซอสสูตรเฉพาะของเชฟ ที่ช่วยเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมเวลาย่างให้กับตัวเนื้อได้ดี 

นอกจากนี้ยังมีเมนู กิวด้ง (Gyudon - Wagyu Bowl), ยุกเกะจังซุป (Yukgaejang Soup - Spicy Beef Soup), เรเมน (Reimen - Cold Noodle)นามูล (Namul) และตบท้ายด้วย พิสตาชีโอ พุดดิ้ง (Dessert - Pistachio Pudding)

คุณจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ร้านเทสสึของเรา เน้นในเรื่องการคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ การปรุงที่เป็นสูตรเฉพาะของร้านและความใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำอาหาร เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอมา โดยเฉพาะการจัดอีเว้นท์พิเศษในครั้งนี้ที่เราก็ได้เลือกสรรเชฟ “เคนทาโร่ นากาฮาระ” ที่มีวิถีความเชื่อด้านการทำอาหารเฉกเช่นเดียวกับทางร้านและความเป็นยากินิกุที่แท้จริงของเชฟ และสุดท้ายนี้ทางร้านต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจอีเว้นท์นี้และสนับสนุนพวกเราเป็นอย่างดี รับรองว่าการจัดอีเว้นท์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งต่อไป จะเติมเต็มประสบการณ์ความอร่อยให้ลูกค้าได้อย่างแน่นอน”


ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของร้าน เทสสึ ได้ที่ https://www.facebook.com/tetsu.embassy/ หรือโทร : 064-587-2421