TH
ข่าวสารล่าสุด
เซ็น กรุ๊ป Q4 ปี 66 รายได้รวม 1,062 ล้านบาท อัพไซด์ค้าปลีกโต 72% ดันยอดรวมปี 66 แตะ 3,945 ล้านบาท

บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โชว์งบไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นที่ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตขึ้นกว่า 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% จากปี 2565 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มบริษัท 177 ล้านบาท

คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวจากการส่งออกภาคบริการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น ทำให้รายรับการท่องเที่ยวปรับลดลง 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจร้านอาหารในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้านเติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับรูปแบบธุรกิจ การพัฒนาแบรนด์ และการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการให้มากที่สุด และจากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทั้งธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรุงรสและธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลแช่แข็งและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารค้าปลีกเติบโตขึ้น 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน”

ในส่วนของการทำการตลาดในช่วงปลายปีก็สร้างความคึกคักให้กับตลาดช่วงปลายปีไม่น้อยเลยทีเดียว ฝั่งร้านอาหารแบรนด์ญี่ปุ่น เริ่มที่ เซ็น เรสเตอร์รอง ชูกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปี มูเก็ตติ้ง (Muketing) ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมพลังด้วยการทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่และเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y - Gen Z,  ต่อมาที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โต๊ะจัง พาสาว ๆ ไปพักร้อนปลายปีถึงอิตาลี กับแคมเปญชวนเฉลิมฉลอง ‘Wonderful Italian Taste with Toh Chan’ สัมผัสเมนูหลากหลายสไตล์อิตาลี โดยเน้นการสร้าง Brand Engagement กับลูกค้ารุ่นใหม่ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และพนักงานออฟฟิต, อากะ (AKA) ต่อยอดความสนุกในแคมเปญปลายปี AKA K-Series กินเกาให้เมามันส์ อัดความสุขแบบไม่อั้น ด้วย AKA Lemon Bomb หรือมะนาวช็อตบอมบ์ เครื่องดื่มปาร์ตี้สุดเกา พร้อมจัดหนักเมนูเกาหลีกว่า 36 เมนู, ทางฝั่งแบรนด์ไทย ตำมั่ว (Tummour) ส่งแคมเปญปลายปีตอกย้ำความมั่วระดับตำนาน เน้นการสร้าง Experience ใหม่ให้กับลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ กับแคมเปญ ‘โคตรแซ่บ โคตรคุ้ม’ เสิร์ฟ 3 เมนู ตำโคตรมั่ว, ตำโคตรเจ้าสมุทร, ตำโคตรหมูยอ จัดหนัก จัดเต็ม แบบไม่หวงเครื่อง มาพร้อมโปรโมชั่นแลกซื้อเมนูหมูสับปลาร้าทรงเครื่อง 1 จาน เพียง 69 บาท (จากราคาปกติ 135 บาท) เมื่อซื้อเมนูตำโคตร (ที่ร่วมรายการ), เขียง (Khiang) ขอส่งเมนูใหม่แบบย้อนวันวาน วัยเด็ก เป็นแคมเปญส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ กับ ‘มาม่าหน้าโรงเรียน’ 3 เมนูเด็กเส้น เครื่องแน่น ได้แก่ มาม่าหน้าโรงเรียน, มาม่าปลากระป๋อง, มาม่าต้มยำทรงเครื่อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดส่งท้ายปีของทุกแบรนด์ในเครือ การขยายสาขาก็เป็นเป้าหมายหลักของ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่รวม 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 18 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 5 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 1 สาขา หากนับรวมทั้งปี 2566 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 57 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 38 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 17 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 2 สาขา

โดยในช่วงไตรมาส 4 ตุลาคม - ธันวาคม ปี 2566 มีการเปิดสาขาใหม่ดังนี้ 

  • แบรนด์ อากะ (AKA) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลนครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเวสต์ วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมสาขาของ AKA ทั้งหมดเป็น 53 สาขา และ อากะ ชาบู (AKA Shabu) 1 สาขา
  • แบรนด์ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN) เปิด 5 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งหมดเป็น 55 สาขา
  • แบรนด์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table) เปิด 4 สาขาใหม่ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ ลาวิลล่า อารีย์ รวมทั้งหมดเป็น 35 สาขา
  • แบรนด์ ดินส์ (Din's) เปิดเพิ่ม 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พัทยา
  • แบรนด์ ตํามั่ว เปิดสาขาแฟรนไซส์ 2 สาขาใหม่ที่ ห้างไชยแสง สิงห์บุรี, บิ๊กซี สระบุรี และ เดอ ตํามั่ว เปิด สาขาแฟรนไซส์ 1 สาขาใหม่ ที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
  • แบรนด์ สาวญวน เปิด 5 สาขาใหม่ เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลอุดร, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และสาขาแฟรนไชส์อีก 2 สาขา คือ เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ
  • เขียง เปิดสาขาแฟรนไชส์ 1 สาขาต่างประเทศที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 341 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 182 สาขา สาขาแฟรนไชส์ในประเทศ 149 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศ 10 สาขา

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการดำเนินการด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะและนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมารีไซเคิล และเริ่มมีการสนับสนุนวัตถุดิบ ไข่ไก่ Cage Free โดยเริ่มนำมาใช้กับ ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง, ร้าน อากะ และ ร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, ร้าน เซ็น เรสเตอร์รอง สาขา เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ ด้วย

6 มีนาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งสายฟู้ดส์ สายคอนเทนท์ ชวนแวะมาเช็คอิน ส่องผลงานศิลปะสุดคิ้วท์
28 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
ปิ้งย่างอินเลิฟ! AKA สร้างกระแสช่วงวาเลนไทน์ ‘เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่รัก’ มอบ ‘ช่อหมูสื่อรัก’ กระชับมิตรแบรนด์คู่แข่งในตลาด แถมถูกจริตคู่รักนักปิ้ง สร้าง engagement ร่วมกันหวานฉ่ำ
12 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านเพิ่มเติม
AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย" ท้าดวลนักกินจุทั่วไทย ร่วมชิงเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
18 มกราคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
เซ็น เรสเตอร์รอง ต้อนรับปีมังกรทอง เสริมความมงคลด้วยมื้ออาหารคุณภาพกับ 5 เมนูมังกรมงคล พร้อมเช็คดวงปัง ๆ ไปกับ หมอต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง
29 ธันวาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม
7 พฤษภาคม 2564
“เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” หรือ ZEN ประกาศงบไตรมาส 1/64 ทำรายได้รวม 605.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28.5 ล้านบาท เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 มุ่งนำเสนอโปรโมชั่นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า มุ่งเน้นบริการเดลิเวอรี่และแพลตฟอร์มออนไลน์ ชูโมเดลแฟรนไชส์ขยายสาขา มั่นใจหากสถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่คลี่คลาย  พฤติกรรมนั่งทานในร้านจะกลับมา

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 (มกราคม – มีนาคม 2564) กำไรเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 28.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 605.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้  643.7 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานของเซ็นกรุ๊ปที่มีกำไรฟื้นตัว เป็นผลจากบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา โดยมุ่งนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด การขยายสาขาภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ การมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการเดลิเวอรี่และแพลตฟอร์มออนไลน์ 

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เซ็น เรสเตอร์รอง มุ่งสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้า โดยจัดแคมเปญ ‘ZEN Premium Buffet’ ในราคาคนละ 599 บาท เป็น Value Promotion ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม สามารถเพิ่มยอดขายร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN เติบโตจากช่วงไตรมาสเดียวกันปี 2563 ถึง 20% และได้จัดแคมเปญอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาส 2 ส่วนร้าน ‘เขียง’ สามารถขยายสาขาแฟรนไชส์ได้อย่างรวดเร็วและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการเดลิเวอรี่ เนื่องจากลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมมาสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน 

ส่วนธุรกิจรีเทลหรืออาหารค้าปลีกมียอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งซื้ออาหารกลับไปรับประทานหรือปรุงเองที่บ้าน และในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท เค.เอส.เอฟ. ฟู้ดส์ โปรดักส์ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด (ZEN and Kosum Interfoods Co.,Ltd) เพื่อต่อยอดขยายธุรกิจอาหารค้าปลีก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องปรุงรสเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเติบโตจากการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์อื่นๆ ในเครือเซ็น กรุ๊ป อาทิ เขียง, อากะ โดยได้ขยายร้านเขียงในรูปแบบโมเดลแฟรนไชส์ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 10 สาขา และวางแผนเปิดเพิ่มอีก 15-20 สาขา ในช่วงไตรมาสที่ 2/2564

“ผลดำเนินงานที่เติบโตได้ดีในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สะท้อนว่าธุรกิจร้านอาหารของบริษัทฯ สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่าในปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการล็อกดาวน์ 14 วัน ในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรีและเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีการให้บริการเดลิเวอรี่และนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะกลับมาใช้บริการนั่งทานในร้านอาหารเครือเซ็นกรุ๊ปเช่นเดิม” นายบุญยง กล่าว
5 พฤษภาคม 2564
นายไพฑูรย์ ทวีผล (กลาง) ประธานคณะกรรมการ นายบุญยง ตันสกุล (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสตีเว่น เดวิด ฮอร์ลิเดร์ (ซ้ายสุด) กรรมการ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัทฯ ร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยผู้ถือหุ้นได้รับทราบผลการดำเนินงานปี 2563 และอนุมัติงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการปี 2563 ของบริษัทฯ พร้อมรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
9 เมษายน 2564
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปหรือ ZEN เปิดตัวแบรนด์ โต้รุ่งรวมเมนูซิกเนเจอร์จากร้านอาหารดังพื้นบ้านต่างจังหวัด ชูคอนเซ็ปต์ ร้านที่มีแต่ครัว (Ghost Kitchen) ให้บริการแบบเดลิเวอรี่และซื้อกลับ ตั้งแต่ 08.00 - 23.00 . นำร่องเปิดบริการสาขาแรกปากซอยอ่อนนุช 17 พร้อมเสิร์ฟความอร่อย 6 เมนูเด็ด คาดกระตุ้นยอดขายเติบโต 15-20 %

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารริมทาง หรือ Street Food ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการปี 2564 จะมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 340,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 270,000 ล้านบาท มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 103,000 ร้านทั่วประเทศ ด้วยศักยภาพของธุรกิจร้านอาหารสตรีทฟู้ด บริษัทฯ จึงแตกโมเดลใหม่ แบรนด์ ‘โต้รุ่ง’โดยรวบรวมเมนูซิกเนเจอร์ร้านอาหารดังพื้นบ้านจังหวัดต่างๆหลากหลายสไตล์ให้บริการรูปแบบเดลิเวอรี่และซื้อกลับ (Take Home)

สำหรับแบรนด์ ‘โต้รุ่ง’ วางคอนเซ็ปต์เป็นร้านอาหารที่มีเฉพาะครัวโดยไม่ต้องมีหน้าร้าน (Ghost Kitchen) โดยช่วงแรกเปิดตัว 6 เมนูเด็ด ได้แก่ เมนูข้าวผัดโบราณ, ปากหม้อนครพนม, ยำปลาร้าหอมสารคาม, ไก่ทอดหาดใหญ่, ต้มเลือดหมูปทุมธานี และโจ๊กปทุมธานี ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30 บาท ซึ่งคัดสรรจากร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดัง ที่มีมาตรฐานการปรุงอาหารสะอาดและปลอดภัยภายใต้ราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ พร้อมกับใช้เชฟที่ผ่านการอบรมสูตรอาหารลับเฉพาะกับแต่ละร้านอาหาร เพื่อสามารถส่งต่อตำนานความอร่อยเปรียบเสมือนไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดัง และเพิ่มทางเลือกแก่ผู้บริโภคสามารถสั่งเมนูอาหารหลากสไตล์ได้ในครั้งเดียว

ทั้งนี้บริษัทฯ นำร่องเปิดสาขาแรกที่ซอยอ่อนนุช17 และวางแผนเปิดให้บริการสาขาที่ 2 ที่ซอยสุขุมวิท 20 ในรูปแบบเดลิเวอรี่ ตั้งแต่ 08.00 – 23.00 น. โดยประเดิมต้อนรับเทศกาลสงกรานต์และรองรับความต้องการสั่งอาหารกลับไปรับประทานในช่วงวันหยุดยาวและตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ต้องการเดินทาง ซึ่งสามารถสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น Grab food ,Line man, foodpanda, gojek, Robinhood หรือ โทร.02 331 1722 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ คาดกระตุ้นยอดขายเติบโต 15-20 % และในเร็วๆ นี้เตรียมทดลองเปิดเมนู ‘โต้รุ่ง ’ ในรูปแบบนั่งรับประทานภายในร้านเขียง สาขาอาคารเกษรทาวเวอร์ เพื่อขยายสู่โมเดลการนั่งรับประทานที่ร้านในอนาคต

 
2 เมษายน 2564
หลังประกาศร่วมทุนลุยธุรกิจเครื่องปรุงรสเพื่อปลุกปั้นขาธุรกิจอาหารค้าปลีก ‘บุญยง ตันสกุล’ ซีอีโอ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เดินหน้าคิกออฟแผนการตลาดช่วงไตรมาส 2 ประเดิมต้อนรับซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ร้าน On the Table, Tokyo Cafe รุกเสิร์ฟ 6 เมนูใหม่ ภายใต้ธีม ‘Spicy Thai Twist’ อร่อยลงตัวกับอาหารไทยฟิวชั่นด้วย 4 เมนูใหม่สุดแซ่บ ทั้งสลัดคาลามารี่แซ่บ สปาเก็ตตี้สไปซี่ไส้กรอกอีสาน ข้าวแมวแซลมอน  พิซซ่าต้มยำไส้กรอกดูโอ้ พร้อมส่งเครื่องดื่มคลายร้อน 2 เมนูใหม่ ชาไทยอาราบิก้าและชาไทยยูซุโฟลต สำหรับลูกค้าที่มองหาเซ็ตสุดคุ้ม Your Sharing Set ซึ่งสามารถครีเอตมื้อพิเศษ เลือกอร่อยได้ตามสไตล์ กับ 3 เซ็ตพิเศษ เริ่มต้นที่ 499 - 899 บาท ลิ้มลองความแซ่บได้แล้วที่ ออนเดอะเทเบิ้ล โตเกียวคาเฟ่ ทุกสาขา ตั้งแต่ 1 เม.ย.- 31 พ.ค. 2564 นี้ เชื่อว่าเมนูใหม่สุด ว้าว ! จะสร้างสีสันในช่วงซัมเมอร์เพื่อปั๊มยอดขายไตรมาส 2 ได้อย่างแน่นอน 
25 มีนาคม 2564
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปหรือ ZEN ผนึก เค.เอส.เอฟ ฟู้ดส์ โปรดักส์ ผู้ผลิตเครื่องปรุงรสรายใหญ่จากจังหวัดมหาสารคาม ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยขยายธุรกิจอาหารค้าปลีกและเครื่องปรุงรสในไทยและต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ และรับจ้างผลิตแก่ผู้ประกอบการในไทยและต่างประเทศ ชี้เป็นตลาดใหญ่ที่มูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมต่อยอดใช้เป็นครัวกลางในการผลิตเครื่องปรุงรสป้อนร้านอาหารในเครือ

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า วันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ ได้อนุมัติเข้าลงทุนในบริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด (ZEN and Kosum Interfoods Co.,Ltd หรือ ZEN.K.C) โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 51% ผ่านบริษัท เซ็น แอนด์ สไปซี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และบริษัท เค.เอส.เอฟ ฟูดส์ โปรดักส์ จำกัด ถือหุ้น 49%  โดยบริษัท เค.เอส.เอฟ ฟู้ดส์ โปรดักส์ ถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสรายใหญ่จากจังหวัดมหาสารคามที่มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมายาวนาน

การร่วมทุนครั้งนี้ ถือเป็นการขยายธุรกิจครั้งสำคัญของเซ็น กรุ๊ป โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะเป็นฐานการผลิตหลัก เพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจอาหารและค้าปลีกของบริษัทฯ อย่างเต็มรูปแบบทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยครอบคลุมทั้งการผลิตครื่องปรุงรสต่างๆ ทั้งที่ทำตลาดอยู่แล้วในปัจจุบัน อาทิ น้ำปลาร้า, น้ำจิ้ม, น้ำยำ, แจ่วบอง ฯลฯ และที่จะพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต อาทิ น้ำปลาร้า (ผสมกัญชา) ฯลฯ โดยการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ผู้ประกอบการในไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมาก และวางแผนขยายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ 

ขณะเดียวกัน จะทำให้บริษัทฯ สามารถต่อยอดขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน โดยจะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์พัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น การต่อยอดนำเมนูอาหารอาหารไทยตามสั่งมาพัฒนาเป็นอาหารบรรจุกระป๋องพร้อมทาน เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภคและเสริมศักยภาพบริษัทฯ ในการเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Service) ที่มีความหลากหลาย

นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนให้บริษัทฯ ร่วมทุนดังกล่าวเป็นครัวกลาง สำหรับการผลิตเครื่องปรุงรสต่างๆ เพื่อป้อนให้แก่ร้านอาหารในเครือเซ็น กรุ๊ป ซึ่งมีความต้องการใช้เครื่องปรุงรสในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งรองรับแผนงานขยายธุรกิจแฟรนไชส์ที่จะต้องขยายสาขาอีกเป็นจำนวนมากในอนาคต 

“หลังจากนี้เราวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสต่างๆ อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน ออกสู่ตลาดอย่างเต็มที่ ผ่านช่องร้านอาหารในเครือเซ็น กรุ๊ป และช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีก โมเดิร์นเทรด จึงวางเป้าหมายว่ากลุ่มธุรกิจอาหารค้าปลีกจะกลายเป็นธุรกิจหลักที่สามารถสร้างยอดขายเติบโตก้าวกระโดด” นายบุญยง กล่าว

ด้านนางวีรดาอร พึ่งโพธิ์เจริญพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.เอฟ.เอส ฟู้ดส์ โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลาร้า มากว่า 20 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ภา-ทอง’ และรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์อื่นๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับผลิตที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามหลักสากล เช่น มาตรฐาน GMP, HACCP เป็นต้น พร้อมทั้งได้รับใบอนุญาตส่งออกสินค้าในภูมิภาคต่างๆ

ขณะที่ความร่วมมือทางธุรกิจกับเซ็น กรุ๊ป ครั้งนี้ จะสามารถนำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 ฝ่ายร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน เพื่อขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการพัฒนาเครื่องปรุงรสใหม่ๆ โดยต่อยอดจากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่เดิม เช่น การนำกัญชามาเป็นส่วนผสมเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

“การร่วมทุนกับเซ็น กรุ๊ป ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสขยายธุรกิจร่วมกัน โดยสามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการผลิตกับความเชี่ยวชาญด้านการตลาด นำมาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ พร้อมกับสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อทำตลาดในประเทศและส่งออกเป็นทางเลือกใหม่ โดยเฉพาะอาหารไทยซึ่งโด่งดังและเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติอยู่แล้ว” นางวีรดาอร กล่าว
19 มีนาคม 2564
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปหรือ ZEN สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ขน 4 แบรนด์อาหารไทย “ตำมั่ว - เดอ ตำมั่ว ลาวญวน และเขียง” เสิร์ฟอาหารไทยใส่ใบกัญชา ประเดิมร้านแรก เดอ ตำมั่ว สาขาเกษร ทาวเวอร์  เปิดตัวเมนูไก่ต้มอารมณ์ดีและยำอารมณ์ดี เจาะลูกค้าใจกลางเมืองรับกระแสกัญชาฟีเวอร์ หวังเพิ่มปริมาณลูกค้าเข้าร้านอีก 15-20% พร้อมจับมือพันธมิตรอุตสาหกรรมอาหาร วิจัยและพัฒนาน้ำปลาร้าผสมกัญชาแบรนด์ ตำมั่วคาดเปิดตัวครึ่งปีหลัง ปั้นเป็นสินค้าเรือธงตัวใหม่เจาะตลาดร้านอาหารไทย และอาหารอีสาน

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า จากกระแสกัญชาที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาเพื่อสร้างประสบการณ์และความแปลกใหม่แก่ผู้บริโภค ล่าสุดเซ็น กรุ๊ป นำร้านอาหารไทย 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ ‘เดอ ตำมั่ว’ ร้านอาหารไทยสไตล์อีสาน ‘เขียง’ ร้านอาหารสตรีทฟู้ด และ ‘ลาวญวน’ ร้านอาหารฟิวชั่นสไตล์อีสานกับเวียดนาม เปิดตัวเมนูอาหารไทยที่มีใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ เพื่อสร้างการจดจำเซ็น กรุ๊ป เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารรายแรก ที่เปิดตัวเมนูดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ เลือกสรรเมนูอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านอาหารมาพัฒนาเป็นเมนูใหม่ โดยนำใบกัญชามาเป็นวัตถุดิบและตกแต่งอาหาร ทั้งการเสิร์ฟใบกัญชารูปแบบใบสด ต้ม และทอดกรอบ โดยนำร่องที่ ร้านอาหารเดอ ตำมั่ว สาขาเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 3  เป็นสาขาแรก เปิดตัวเมนูอาหารไทยใส่ใบกัญชาแล้ว 2 เมนู ได้แก่ ไก่ต้มอารมณ์ดี (ไก่ต้มริมโขง) และยำอารมณ์ดี (ยำผักหวานกุ้งสด) และมีแผนขยายไปยังร้านตำมั่ว สาขา I AM Chinatown และปตท. เมืองทองธานี รวมถึงขยายไปยังแบรนด์ ‘เขียง’ เตรียมเปิดตัวเมนูกะเพราใบกัญชา สาขาแรก ที่ เกษร ทาวเวอร์ ชั้นใต้ดิน และ ธานี และขยายเมนูอาหารไปสู่ร้านอาหารลาวญวนเพิ่มเติม 

 สำหรับการเปิดตัวเมนูอาหารผสมใบกัญชา บริษัทฯ ดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยได้สั่งซื้อใบกัญชาจากรัฐวิสาหกิจชุมชน จ.นครพนม ซึ่งได้ขออนุญาตจัดสร้างโรงเรือนเพื่อเพาะปลูกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับเจรจารับซื้อวัตถุดิบใบกัญชาจากรัฐวิสาหกิจชุมชน และแหล่งเพาะปลูกอื่นๆ เพื่อจัดเตรียมวัตถุดิบให้เพียงพอ 

“หลังเปิดตัวเมนูอาหารไทยใส่ใบกัญชา ที่ ร้านเดอ ตำมั่ว สาขา เกษร ทาวเวอร์ ได้กระแสตอบรับที่ดีมีลูกค้าสนใจสั่งเมนูดังกล่าวมารับประทานเป็นจำนวนมาก และเราคาดหวังว่าการเสิร์ฟเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบใบกัญชา จะสร้างกระแสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน เข้ามาลิ้มลองความอร่อยกับความแปลกใหม่ คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณลูกค้าเข้าร้านอีก 15-20% ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นเซ็น กรุ๊ป มุ่งนำเสนอเมนูอาหารที่สอดรับกับเทรนด์ของโลก” นายบุญยง กล่าว  

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญการผลิตเครื่องปรุงรส เพื่อร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของกัญชา นำร่องผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าผสมใบกัญชา ภายใต้แบรนด์ ‘ตำมั่ว’ ซึ่งจะดำเนินการขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง ก่อนพัฒนาผลิตออกสู่ตลาด คาดว่าจะสามารถเปิดตัวน้ำปลาร้าผสมกัญชาออกจำหน่ายได้ภายในครึ่งปีหลัง ผ่านช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด และร้านตำมั่วทุกสาขา